ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้าทีมกลยุทธ์ตลาดการเงินและวางแผนการลงทุน EASY INVEST บล.ไทยพาณิชย์ (SCBS)ระบุว่าในสัปดาห์นี้ แนะนำติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย (กนง.) ในวันพุธ คาดว่าจะมีมติ “คง” อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.50% แม้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวช้าและแรงกดดันของเงินเฟ้อยู่ในระดับต่ำ แต่เชื่อว่าประโยชน์ของการลดดอกเบี้ยจากนี้มีไม่มาก ขณะที่ความไม่แน่นอนในตลาดการเงินอยู่ในระดับสูง จึงคาดว่ากนง.จะรอดูสถานการณ์ไปก่อน
ด้านเศรษฐกิจที่น่าสนใจที่สุดในสัปดาห์นี้คือการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐ (U.S. Nonfarm Payrolls) ในวันศุกร์ ซึ่งตลาดมองว่าจะเพิ่มขึ้นราว 50,000 ตำแหน่งในเดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ต้องระวังการเลิกจ้างในภาคบริการโดยเฉพาะในกลุ่มโรงแรมและร้านอาหาร ซึ่งคาดว่าสัญญาณเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า จะหนุนให้การเจรจาเรื่องงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ในสหรัฐเกิดขึ้นได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์
ฝั่งตลาดเงิน สัปดาห์นี้คาดว่าตลาดจะติดตามตัวเลขเศรษฐกิจมากขึ้น โดยอาจเริ่มมองตั้งแต่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อทั้งในและนอกภาคการผลิตในสหรัฐ ไปจนถึงตัวเลขตลาดแรงงานในวันศุกร์ ขณะเดียวกันก็เชื่อว่ายังมีความผันผวนในตลาดทุนที่สูงจากแรงเก็งกำไรของรายย่อยเข้ามาผสม ทำให้ตลาดมีโอกาสปิดรับความเสี่ยงได้ในระยะสั้น โดยรวมจึงมีความเป็นไปได้มากที่เงินดอลลาร์จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบกว้าง
กรอบดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) สัปดาห์นี้ 90.00-91.00 จุด ระดับปัจจุบัน 90.64 จุด
ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท เชื่อว่าต้องติดตามผลการประชุมกนง.ในสัปดาห์นี้ให้ผ่านพ้นไปก่อน ส่วนประเด็นหลักช่วงนี้ ด้านบวกยังคงเป็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเอเชีย และการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ สวนทางกับด้านลบอย่างภาพตลาดทุนทั่วโลกที่ปรับฐาน และการระบาดของไวรัสในไทย อย่างไรก็ดี เราเชื่อว่าเงินบาทไม่ได้อยู่ในกระแสของนักลงทุนมากนัก จึงน่าจะเคลื่อนไหวตามภาพเศรษฐกิจจริงมากกว่า เพียงแต่ต้องระวังว่าถ้าตลาดหุ้นทั่วโลกปรับฐานแรง ก็อาจกดดันให้นักลงทุนต้องขายสินทรัพย์อื่นๆ รวมถึงเงินบาทไปพร้อมกันด้วย
กรอบเงินบาทรายสัปดาห์ 29.75-30.25 บาทต่อดอลลาร์
ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เช้าวันนี้ (1 ก.พ.) อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับ 29.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ แข็งค่าเล็กน้อยจากระดับปิดวันศุกร์ก่อนหน้าที่ 29.94 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ตลาดยังรอปัจจัยใหม่ๆ มากระตุ้น โดยปัจจัยในประเทศที่ยังรอติดตามจะอยู่ที่ผลการประชุม กนง. ในช่วงกลางสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญ ประกอบด้วย สัญญาณเกี่ยวกับมาตรการการคลัง และข้อมูลตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ในช่วงปลายสัปดาห์
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 29.80-30.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI และดัชนี ISM ภาคการผลิตเดือนม.ค. ของสหรัฐฯ และ ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน ยูโรโซน และอังกฤษ