ทิศทาง "ราคาทอง" กับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของ “ไบเดน”

31 ม.ค. 2564 | 01:55 น.

คอลัมน์ ครบเครื่อง เรื่องทอง โดย MTS GOLD แม่ทองสุก

ทิศทางราคาทองคำ สำหรับสัปดาห์ที่ 26-30 ม.ค.หลังจากที่นายไบเดน ได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา ดูจะส่งผลทำให้ราคาทองคำดีดกลับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง 

 

โดยมีสาเหตุสำคัญคือ การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับตัวสูงขึ้นจากระดับ 1.02% ค่อยๆปรับตัวสูงขึ้นมาที่ 1.184% ก่อนจะทรงตัวบริเวณ 1.1% โดยประมาณ จึงกดดันให้ทองคำทำตํ่าสุดตั้งแต่ช่วงต้นปี แถวระดับ 1,802 เหรียญ และการที่ราคาทองคำปรับขึ้นมาเป็นผลจากการคาดหวังถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

 

ภายใต้ชื่อแผน American Rescue Plan ของนายไบเดนที่จะเข้ามาพยุงเศรษฐกิจเพิ่มเติมด้วยวงเงิน 1.9 ล้านล้านเหรียญ ขณะที่ช่วงปลายยุคของนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีการลงนามการกระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้วงเงิน 9 แสนล้านเหรียญประมาณช่วงเดือน ธ.ค.

 

อย่างไรก็ดี การมาของนางเจเน็ต เยลเลน กับบทบาทรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐฯคนใหม่ มีแนวโน้มจะทำให้การดำเนินนโยบายการเงินของเฟดอาจมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟดมีแนวคิดจะสนับสนุนทางการเงิน ในขณะที่นางเยลเลน มีแนวคิดสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯเป็นอันดับแรก และในเวลานี้ทั้งสภาล่างและสภาสูงก็มีการหารือการผลักดันการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ท่ามกลางพรรคเดโมแครตที่สามารถครองเสียงข้างมากได้ทั้งสองสภา ซึ่งโดยภาพรวมคาดว่า น่าจะผลักดันแผนกระตุ้นเศรษฐกิจให้ผ่านได้ประมาณช่วงต้นเดือนก.พ. 

 

สำหรับเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในองค์รวมดูจะมีตัวเลขที่ค่อยๆปรับตัวสูงขึ้นมา แต่การฟื้นตัวในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมานี้ เป็นผลมาจากการกระตุ้นเศรษฐกิจและการใช้นโยบาย QE ที่มีการต่ออายุ ไม่ได้เป็นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้ด้วยตัวเอง จึงมีโอกาสที่ค่าเงินดอลลาร์อาจจะปรับอ่อนค่าลงไปอีก สำหรับดัชนีดอลลาร์ช่วงก่อนสัปดาห์สุดท้ายดีดกลับมาแถว 90.77 จุด แต่ภาพรวม MTS GOLD คาดว่า ดอลลาร์มีโอกาสหลุด 90 จุดลงมา โดย ณ วันที่ 25 ม.ค. ที่กำลังเขียนบทความอยู่นี้ดัชนีดอลลาร์เคลื่อนตัวบริเวณ 90.22 จุด ขณะที่เงินบาทเคลื่อนไหวบริเวณ 30 บาท/ดอลลาร์ ในส่วนราคาทองคำไทยอยู่ที่บริเวณ 26,300 บาท/บาททองคำ 

ในเชิงการวิเคราะห์ทิศทางราคาทองคำ วิเคราะห์ได้ว่า ราคาทองคำน่าจะเคลื่อนไหวเป็นลักษณะ Sideway Up โดยมีแนวต้านหลักที่ 1,880 เหรียญ และคาดว่าน่าจะทะลุขึ้นไปได้ ซึ่งหากราคาทองคำยืนเหนือระดับดังกล่าวขึ้นมาได้ก็มีโอกาสสูงที่จะเห็นราคาทองคำที่ระดับ 1,900-1,950 เหรียญ ภายในช่วง 3 เดือน

 

ดังนั้น ความผันผวนของราคาทองคำในยุคของนายไบเดนน่าจะลดลง เนื่องจากการที่จะมีการบริหารการจัดการของเฟดและภาครัฐบาลไปในทิศทางที่คล่องตัวและสอดคล้องกัน ประกอบกับการที่นายไบเดนไม่ได้มีแนวคิด หรือไม่ได้ใช้ทวิตเตอร์ในเชิงที่จะมาส่งผลลบต่อตลาดเหมือนอย่างยุคของนายทรัมป์ จึงคาดว่าค่า เงินดอลลาร์น่าจะลดการแกว่งตัวลง แต่น่าจะมีทิศทางในการอ่อนค่าสัปดาห์นี้ หรือในระยะ 1 เดือนข้างหน้า 

ทิศทาง "ราคาทอง" กับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของ “ไบเดน”

จึงวิเคราะห์ว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าและมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปได้ แนะนำให้นักลงทุนทยอยเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว หรือเมื่อราคาทองคำปรับลงมาแถว 1,830 เหรียญ ซึ่งหากเป็นราคาทองคำไทยก็จะอยู่ที่กรอบประมาณ 26,000-26,300 บาท/บาททองคำโดยประมาณนั่นเอง และยังคาดว่า ราคาทองคำน่าจะปรับตัวสูงขึ้นได้จากสาเหตุหลัก

 

นั่นคือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่จะมาในเดือนหน้านั่นเอง จึงขอให้นักลงทุนทุกท่านโชคดี และอย่าลืมบริหารความเสี่ยง รวมทั้งปรับการลงทุนเป็นลักษณะเข้าเร็วออกเร็ว น่าจะเป็นสิ่ง 4 สำคัญที่สุด 

 

ที่มา: หน้า 14 ฉบับที่ 3,649 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 31 มกราคม - 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564