"แล้ง" ทุบราคาสับปะรดร่วง เหลือ 2-3 บาท/กิโลกรัม
ภัยแล้งพ่นพิษ “สับปะรด” ลูกเล็ก โรงงานกดราคายับเหลือ 2-3 บาท/กก. ลุ้นฝนหลงฤดูพัด เพิ่มขนาดลูกโต ช่วยดันราคาเพิ่ม
นายสุรัตน์ มุนินทรวงศ์ นายกสมาคมชาวไร่สับปะรดไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงสถานการณ์สับปะรด จากผลกระทบภัยแล้ง ทำให้สับปะรดมีลูกขนาดเล็ก ตกเกรด ในอดีตราคาจะต่างกันแค่ 1 บาท/กก. เทียบกับผลขนาดปกติ แต่ปัจจุบัน ราคาขนาดผลปกติ 6.7 -7 บาท/กิโลกรัม ลูกตกเกรด เหลือแค่ 2-3 บาท/กิโลกรัม ซึ่งช่วงนี้ผลผลิตยังออกไม่เต็มที่ยังโดนกดราคาขนาดนี้
อย่างไรก็ดีก็หวังว่าราคาจะปรับเพิ่มมากกว่านี้ ถ้าโรงงานมีใจ เพราะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต้องใช้ฝนธรรมชาติเข้าช่วย เพราะพื้นที่ปลูกสับปะรดอยู่นอกเขตชลประทาน พอแล้ง แหล่งน้ำธรรมชาติ ลำห้วย คลองขุด จะแห้งขอดไปด้วย ซึ่งก็สามารถรดน้ำได้อย่างมากแค่ 1-2 ครั้ง ก็หมดแล้ว จากนี้ไปจะแล้ง ต้องไปช่วงเมษายน เพื่อลุ้นฝน นอกจากปีไหน ดวงดีมีฝนตก ก็จะช่วยเพิ่มขนาด และปรับราคาสับปะรดใหม่ได้
นายอานนท์ โลดทนงค์ รองประธานสภาเกษตรกรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และเลขาธิการสมาคมชาวไร่สับปะรดไทย กล่าวว่า ตอนนี้สภาพอากาศ เกิดจาก ปรากฎการณ์ “ลานีญ่า” ส่งผลทำให้สับปะรดในเดือนนี้ ต้นเหี่ยว ลูกไม่สมบูรณ์ จะเสียหายมาก พอกลายเป็นลูกเล็ก ราคาที่ตกเกรดของโรงงาน ซื้อถูกและกดราคาไปในตัวด้วย
“ประเมินแล้วทั้งประเทศเสียหายกว่าครึ่ง แล้วเกษตรกรต้นทุนหนักมาก มีการซื้อน้ำมารด แล้วรดน้ำอย่างไร ก็สู้สภาพอากาศที่ร้อนจัด ก็ไม่ไหว รดคืนนี้ พรุ่งนี้เช้าก็แห้งเหือด ยอมรับว่าสู้กับธรรมชาติไม่ไหว”
อย่างไรก็ดีทางสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ในฐานะเลขานุการ ได้แจ้งว่า คณะกรรมการนโยบายและพัฒนาสับปะรดแห่งชาติจะมีประชุมประมาณเดือนมีนาคมนี้ แต่ยังไม่ได้กำหนดวันเวลา ที่ชัดเจน ก็ต้องรอต่อไป