อนาคตธุรกิจครอบครัว หลังวิกฤติโควิด-19 

23 ม.ค. 2564 | 04:02 น.

โควิด-19 ส่งผลต่อภาคธุรกิจทั่วโลก แต่ทำไม "ธุรกิจครอบครัว" จึงมีความยืดหยุ่นมากกว่า

ความกังวลของภาคธุรกิจเกี่ยวกับการระบาดของโรคโควิด-19 ในครั้งนี้ คือวิกฤติจะยาวนานแค่ไหนและเมื่อกลับมาเป็นปกติโดยเฉพาะในบริษัทขนาดเล็ก พวกเขาจะอยู่รอดต่อไปได้หรือไม่ คำตอบหาได้จากงานวิจัยหลายชิ้นที่ชี้ให้คลายกังวลได้เลย เช่นรายงานจาก Credit Suisse Research Institute ระบุว่ากลุ่มธุรกิจ SMEs มีความแข็งแกร่งมากโดยเฉพาะธุรกิจครอบครัวที่ก่อตั้งมายาวนานมีรากฐานมาจากค่านิยมของครอบครัว โดยรายงานเรื่อง Credit Suisse Family 1000: Post the Pandemic ระบุว่าธุรกิจครอบครัวทั่วโลกล้วนมีผลการดำเนินงานดีกว่าธุรกิจทั่วไปที่ไม่ใช่ธุรกิจครอบครัวในทุกหมวดธุรกิจ และมีความยืดหยุ่นต่อผลกระทบจากโรคโควิด-19 ได้อย่างน่าทึ่ง

อนาคตธุรกิจครอบครัว หลังวิกฤตฺโควิด-19

ทั้งนี้จากการศึกษาโดยใช้ฐานข้อมูลธุรกิจครอบครัวที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มากกว่า 1,000 ราย (ภาพที่ 1) ประมาณ 50% ของบริษัทในฐานข้อมูลอยู่ในเอเชีย ทั้งนี้เมื่อรวมญี่ปุ่นและเอเชียแปซิฟิกแล้วมีสัดส่วนถึง 51% ของธุรกิจทั้งหมดซึ่งประกอบไปด้วย บริษัท 540 รายที่มีมูลค่ารวมกันกว่า 5.56 ล้านล้านดอลลาร์ ผลการติดตามของ Swiss Wealth Manager นับตั้งแต่ปีค.ศ. 2006 พบว่าธุรกิจครอบครัวมีผลการดำเนินงานโดยรวมเฉลี่ยต่อปีที่สูงกว่าธุรกิจทั่วไป 370 basis points โดยเฉพาะในเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่นพบว่ามีความเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัดที่สุด คือมีผลตอบแทนต่อปีสูงกว่าธุรกิจทั่วไป ถึง 500 basis points ขณะที่ในยุโรปสูงกว่า 470 basis points เช่นกัน

ทั้งนี้การวิจัยจนถึงปัจจุบันชี้ให้เห็นว่าธุรกิจครอบครัวดำเนินงานไปตามกลยุทธ์การลงทุนในระยะยาว ส่งมอบผลกำไรที่มั่นคงและเหนือกว่าตลอดวงจรธุรกิจ และในท้ายที่สุดก็ยังส่งมอบผลตอบแทนส่วนเกินอย่างมากให้กับผู้ถือหุ้นทั้งหมดอีกด้วย

 

ธุรกิจครอบครัวที่ถือเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจของประเทศส่วนใหญ่จะเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีว่าเศรษฐกิจโดยรวมจะโตขึ้นได้อย่างไรหลังการระบาดของโรคโควิด-19 โดย Euge,ne Klerk หัวหน้าฝ่ายวิจัยด้าน ESG ระดับโลกของ Credit Suisse ระบุว่าธุรกิจครอบครัวมีรูปแบบทางการเงินที่มีความอนุรักษ์นิยมที่มากกว่าธุรกิจทั่วไปจากการกู้เงินเพื่อลงทุนที่ต่ำกว่าและการสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นสินทรัพย์ที่ดีของพวกเขา โดยทั่วไปธุรกิจครอบครัวจะมีผลการดำเนินงานสูงกว่าบริษัททั่วไปที่ไม่ใช่ธุรกิจครอบครัวถึง 200 basis points ทั้งในกลุ่มบริษัทขนาดเล็กและบริษัทขนาดใหญ่

 

นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะทำกำไรได้มากกว่าด้วยผลตอบแทนที่สูงกว่าในทุกภูมิภาคทั่วโลก เนื่องจากมีการมุ่งเน้นการลงทุนในระยะยาวเมื่อเทียบกับบริษัททั่วไป จะเห็นได้ว่าธุรกิจครอบครัวมีจุดแข็งที่จะทำให้มีโอกาสที่จะรอดพ้นจากวิกฤติทางเศรษฐกิจในครั้งนี้ไปได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทว่าจะสามารถนำจุดแข็งเหล่านี้มาใช้ได้เพื่อความอยู่รอดได้มากเพียงใดนั่นเอง 

 

ที่มา: Bennion, J. 2020. Family-Owned Businesses Withstand COVID Assaults. Available: https://www.wealthbriefing.com/html/article.php?id=188512 ข้อมูลเพิ่มเติม: www.famz.co.th

 

หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,647 วันที่ 24 - 27 มกราคม พ.ศ. 2564

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

Checklist!  แผนสืบทอดธุรกิจครอบครัว 

เหตุผลที่ผู้นำ กลายเป็นผู้ต่อต้านการเปลี่ยนแปลง     

ทรัพย์สมบัติ ที่มาพร้อมกับความท้าทาย

อยากพูด แต่ลำบากใจ

การบริหารธุรกิจครอบครัว แบบ Working Backwards