ผู้ปกครองที่ดี ย่อมมีหัวใจอยู่ที่ประชาชน

20 ม.ค. 2564 | 07:57 น.

ผู้ปกครองที่ดี ย่อมมีหัวใจอยู่ที่ประชาชน : คอลัมน์ข้าพระบาททาสประชาชน ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3646 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 21-23 ม.ค.2564 โดย...ประพันธุ์ คูณมี

 

โลกปัจจุบันกำลังปั่นป่วนเผชิญกับภัยพิบัติครั้งใหญ่ บ้านเมืองยามนี้อยู่ในภาวะวิกฤติด้วยพิษโควิด-19 ประชาชนทั้งแผ่นดินล้วนประสบชะตากรรมเดียวกัน ความเดือดร้อนทุกข์ยากปกคลุมไปทั่ว ประชาชนทุกระดับชั้นต่างประสบปัญหามากน้อยทั่วหน้ากัน ประเทศมีแต่ภาระค่าใช้จ่ายเพื่อแก้ปัญหา เยียวยาประชาชน มากกว่ารายได้ เศรษฐกิจหดตัวถดถอยตลอดปี ทุกอย่างหยุดชะงักรอเวลาฟื้นตัว จนกว่าการค้นพบวัคซีนจะถูกนำมาใช้เพื่อหยุดยั้งโรคร้าย แต่ก็ต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะฟื้นฟูให้กลับมาดั่งเดิม

ช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก ที่ปกคลุมประเทศมาต่อเนื่องยาวนานหนึ่งปีเต็มนี้ ประเทศไทยยังต้องเผชิญกับโรคระบาดร้ายแรงรอบที่สอง โดยที่ยังไม่รู้ว่าจะจบสิ้นเมื่อใด ผู้ที่ได้รับผล

กระทบรุนแรงหนักหน่วงที่สุด ก็คือประชาชน เสียงแห่งความทุกข์ร้อนของราษฎร ดังระงมทั้งแผ่นดิน จึงเป็นปัญหาใหญ่ยิ่งสำหรับผู้ปกครองบ้านเมือง ผู้เขียนได้อ่านหนังสือ “เพลงกระบี่ สี จิ้น ผิง” ผู้นำสูงสุดของจีน อ่านแล้วได้คติเตือนใจ เหมาะสำหรับผู้ปกครองบ้านเมือง และบรรดาข้าราชการ ที่มีหน้าที่ดูแลประชาชน จึงขอนำมาฝากให้อ่านเป็นข้อคิด เพราะยามนี้ราษฎรต้องพึ่งพารัฐ ให้ดูแลทุกข์สุขเป็นสำคัญ ประชาชนฝากความหวังไว้ที่รัฐบาล การวางตนและปฏิบัติหน้าที่ของราชการจึงสำคัญยิ่ง หากวางตนจัดการปัญหายามวิกฤติไม่ดี บ้านเมืองอาจไร้ความสงบสุขได้

สิ่งที่เป็นทั้งคำสอน และการปฏิบัติตนของผู้ปกครอง และที่ผู้นำพร่ำสอนให้บรรดาเจ้าหน้าที่รัฐ และข้าราชการจีนปฏิบัติ ที่น่าสนใจ เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์บ้านเมืองของเราในยามนี้เป็นอย่างยิ่ง จึงขอคัดมาให้อ่านบางส่วนดังนี้
 

1. ขอเพียงราษฎร์อิ่มท้องและอุ่นกาย มิเสียดายจากพนามาตรากตรำ
ความหมายว่า “ถ้าในใจไม่มีประชาชน ก็อย่าเป็นข้าราชการดีกว่า” การเป็นข้าราชการในที่ใด ก็ต้องทำให้ประชาชนในที่นั้นมีความสุข มีอำนาจรัฐอยู่ในมือก็ต้องทำงานเพื่อประชาชน หากทำอะไรไม่ได้สักอย่างจะเลือกคุณมาทำไม อะไรก็ไม่ทำแล้วจะเอาไว้ทำไม ความเป็นอยู่ของประชาชนมิใช่เรื่องนามธรรมล่องลอย หากแต่ควรทำให้เป็นจริง นี่เป็นบททดสอบความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ระดับบริหาร

2.การปกครองจักรุ่งเรือง เมื่อคล้อยตามจิตใจราษฎร การปกครองจักเสื่อมโทรม เมื่อสวนทางจิตใจราษฎร
ปัญหา “จิตใจประชาชน” สำหรับพรรครัฐบาลแล้วเป็นปัญหาพื้นฐาน ความสัมพันธ์ฉันเกื้อกูลระหว่างจิตใจประชาชนกับผู้ปกครองบ้านเมือง “จะต้องถือจิตใจของประชาชนเป็นจิตใจของตนเอง” ต้องตระหนักถึงทิศทางจิตใจของประชาชน ความติดขัดของประชาชน และความทุกข์ยากของประชาชน เป็นภารกิจสำคัญอย่างยิ่งยวด ประชาชนย่อมต้องการหลุดพ้นจากความต่ำต้อยยากจน รัฐบาลจึงมีหน้าที่ทำให้พวกเขามีความสุข

3.ผู้ที่เป็นสุขกับความสุขของราษฎร ราษฎรย่อมเป็นสุขกับความสุขของผู้นั้นด้วย ผู้ทุกข์กับความทุกข์ของราษฎร ราษฎรย่อมทุกข์กับความทุกข์ของผู้นั้นด้วย
การยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ดำเนินการปกครองเพื่อประชาชน สุดท้ายต้องทำให้เป็นจริงในแต่ละเรื่อง ความจริงเหล่านี้ปรากฎให้เห็นใน “เรื่องใหญ่” เช่น การพัฒนาเศรษฐกิจสังคมที่เป็นประโยชน์โดยรวม ขณะเดียวกันก็ปรากฏให้เห็นใน “เรื่องเล็ก” คือชีวิตประจำวันของประชาชน “เป็นสุขกับความสุขของราษฎร” คือผลที่ประชาชนได้รับคุณประโยชน์จากการพัฒนา “ทุกข์กับความทุกข์ของราษฎร” ต้องปรากฏให้เห็นจากการขจัดความเดือดร้อนของประชาชน

4.ขจัดความทุกข์ร้อนของราษฎร ดุจดังขจัดโรคร้ายของตนเอง
ความสำคัญอย่างยิ่งยวดในการแก้ปัญหาของประชาชนคือ ทำอย่างไรจึงจะทำให้เจตคติการปกครองเป็นจริง ทำอย่างไรจึงจะทำให้การมุ่งแสวงหาคุณค่าความเป็นอยู่ของประชาชนอันเป็นสิ่งสูงสุด กลายเป็นปฏิบัติการที่เป็นจริงได้ นั่นคือ ต้องไม่ทำงานแบบแค่เป็นผักชีโรยหน้า ทำเอาหน้าแก้ปัญหาแค่เปลือกนอก เจ้าหน้าที่รัฐทุกระดับ ต้องแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชนอย่างจริงจัง เมื่อเห็นความเดือดร้อนของประชาชน ต้องตั้งอกตั้งใจแก้ไขคลี่คลายดุจดัง “ขจัดโรคร้ายของตนเอง”

 

ที่ได้คัดย่อเอาแต่ข้อความอันเป็นสาระสำคัญ ที่บุคคลระดับ สี จิ้น ผิง ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของจีน ที่สามารถนำพาประเทศจีนและประชากรร่วม 1,400 ล้านคน ก้าวพ้นปัญหาความยากจน สู่ประเทศที่เจริญทันสมัยดังปัจจุบัน มาพูดถึงเป็นตัวอย่างบางส่วนนั้น เพราะเห็นว่าน่าจะสอดคล้องกับสถานการณ์บ้านเมืองของเราในปัจจุบัน ด้วยปัญหาวิกฤติจากโควิด-19 ขณะนี้ ผู้ที่ทุกข์ยากเดือดร้อนแสนสาหัสที่สุดคือประชาชนผู้หาเข้ากินค่ำ ผู้ประกอบการร้านค้า ภัตตาคารร้านอาหาร หรือผู้ประกอบธุรกิจขนาดเล็กขนาดย่อม พนักงานลูกจ้าง แรงงาน นักร้อง นักดนตรีผู้ประกอบอาชีพอิสระต่างๆ ยกเว้นบรรดาข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักการเมือง ที่ยังมีชีวิตความเป็นอยู่ตามปกติ ไม่ต้องตกงาน ไม่ถูกตัดเงินเดือน ไม่ขาดรายได้เช่นเดียวกับประชาชน 

การแก้ไขปัญหาของรัฐบาล การปฏิบัติตัววางตนของเจ้าหน้าที่ และบรรดาข้าราชการ เพื่อช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชนในภาวะบ้านเมืองเช่นนี้ จึงเป็นภารกิจที่สำคัญอันยิ่งยวด สมควรอย่างยิ่งที่รัฐบาลพึงตระหนัก การกำหนดมาตรการใดๆ ให้ประชาชนปฏิบัติก็ดี การออกข้อห้ามที่ส่งผลกระทบร้ายแรงเกินความจำเป็นต่อการประกอบอาชีพหารายได้ของประชาชนก็ดี พึงพิจารณาให้เหมาะสมและควรแก่เหตุ ทั้งรัฐพึงต้องพิจารณาเร่งรีบหามาตรการเยียวยาความเดือดร้อนของประชาชน เพราะมาตรการของรัฐขณะนี้ที่ห้ามประชาชนประกอบธุรกิจการหรือจำกัดเวลา แม้ไม่ถึงขนาดต้องปิดกิจการก็เหมือนปิดกิจการอยู่ดี 

การที่รัฐบาลและผู้ปกครองบ้านเมืองใส่ใจและคิดถึงจิตใจประชาชนนั้น แม้ลำบากเพียงใดถ้าได้ใจประชาชน ปัญหาก็จะบรรเทาเบาบางลดน้อยลง แต่เมื่อใดที่ผู้ปกครองบ้านเมืองมองข้ามเรื่องนี้ บ้านเมืองอาจไร้ความสงบสุขได้ การเป็นผู้ปกครองที่ดี จึงต้องมีหัวใจอยู่ที่ประชาชน