“บิ๊กตู่-จุรินทร์-สุพัฒนพงษ์-อาคม”ได้ใจประชาชนแก้ปัญหาเศรษฐกิจ-ปากท้อง  

17 ม.ค. 2564 | 10:30 น.

ซูเปอร์โพลชี้“บิ๊กตู่-จุรินทร์-สุพัฒนพงษ์-อาคม”ได้ใจประชาชนแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้อง  แนะใช้ “พลัง 5 เสือ” ได้แก่ “คลัง-พาณิชย์-เกษตร- อุตสาหกรรม-พลังงาน”มุ่งลดความทุกข์ยากเดือดร้อนประชาชนในทุกมิติ 

วันนี้ (17 ม.ค.64) ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) สถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ เปิดเผยผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง “รัฐมนตรีต้นปี ได้ใจประชาชน” กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,610 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 11-16 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา


เมื่อถามถึงความเชื่อมั่นต่อมาตรการประคองเศรษฐกิจ คุมโควิดใหม่ ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พบว่า ร้อยละ 49.2 เชื่อมั่น ร้อยละ 26.8 ระบุปานกลาง และร้อยละ 24.0 ไม่เชื่อมั่น


ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามถึงคณะบุคคลในคณะรัฐมนตรีต้นปี 2564 ที่ได้ใจประชาชนเรื่อง แก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชน พบว่า 


อันดับแรก หรือร้อยละ 35.8 ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โครงการคนละครึ่ง และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวม 


รองลงมาคือ ร้อยละ 21.0 ได้แก่  นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โครงการพาณิชย์ ลดราคา อาหาร ของกิน เครื่องดื่ม ของใช้ชีวิตประจำวัน


ร้อยละ 20.9 ได้แก่ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มาตรการค่าไฟฟ้า


ร้อยละ 20.5 ได้แก่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มาตรการเงินเยียวยา มาตรการสินเชื่อ ค้ำประกันสินเชื่อ 


และ ร้อยละ 18.1 ได้แก่ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ตามลำดับ 

                                 รัฐมนตรีที่ได้ใจประชาชนแก้ปัญหาเศรษฐกิจ-ปากท้อง


ที่น่าพิจารณา คือ บุคคลในคณะรัฐมนตรีต้นปี ได้ใจประชาชนเรื่อง ช่วยเหลือเรื่องรายได้ ลดผลกระทบโควิด-19 พบว่า 

 

อันดับแรก หรือ ร้อยละ 33.2 ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี 


รองลงมา อันดับสองหรือ ร้อยละ 20.3 ได้แก่ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องการประกันรายได้ ช่วยราคาผลผลิต และเงินเยียวยาเกษตรกร

 

อันดับสาม หรือร้อยละ 20.2 ได้แก่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลดราคาสินค้า ของกิน ของใช้ ผลกระทบโควิด-19 


อันดับสี่ หรือ ร้อยละ 19.6 ได้แก่ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน 
 

และร้อยละ 19.4 ได้แก่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตามลำดับ


เมื่อถามถึงบุคคลในคณะรัฐมนตรีต้นปี ได้ใจประชาชนเรื่อง การทำงานควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 พบว่า 


อันดับแรกหรือร้อยละ 32.5 ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เร่งรัดจัดการ เจ้าหน้าที่รัฐขบวนการต้นตอแพร่ระบาดโควิด ทั้ง บ่อนพนัน และขบวนการฟอกตัวแรงงาน เป็นต้น 


รองลงมาคือ ร้อยละ 30.7 ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่วิกฤตเช่น สมุทรสาคร แม่สอด ควบคุมการแพร่ระบาด เร่งรัดวัคซีน และสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ เป็นต้น


 
ร้อยละ 29.7 ได้แก่ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยม โรงพยาบาลสนาม พื้นที่ต่าง ๆ


ร้อยละ 21.9 ได้แก่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เร่งรัดผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเคร่งครัด 


และ ร้อยละ 18.0 ได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ควบคุมจัดการเจ้าหน้าที่รัฐต้นตอแพร่ระบาดโควิด-19

 


“รัฐมนตรีต้นปี ได้ใจประชาชนเป็นรัฐมนตรีที่ทำงานใกล้ตัวประชาชนมีผลตรงต่อชีวิตความเป็นอยู่และเงินในกระเป๋าของประชาชน จากผลโพลนี้เสนอให้นายกรัฐมนตรีใช้โมเดล “พลังห้าเสือ” ได้แก่ คลัง พาณิชย์ เกษตร อุตสาหกรรมและพลังงาน ประชุมที่โต๊ะรูปไข่ทำเนียบรัฐบาล มุ่งเป้าหมายไปที่ ลดความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชนในทุกมิติให้เข้าเป้าทั้งแผง ไม่ใช่ต่างคนต่างคิดต่างทำโชว์ผลงานไปคนละทาง กลายเป็นการฟาดหวายไปทีละเส้น ไร้พลัง จึงต้องมัดเส้นหวายเข้าด้วยกัน 


โดยนำหัวกะทิของแต่ละกระทรวงทั้งห้าเสือเหล่านี้ทำเวิร์คช็อป  (Workshop) ที่ทำเนียบรัฐบาลใช้ข้อมูลที่ดีนำทางใช้ความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชนเป็นตัวตั้งและใช้มาตรการที่ได้จาก “พลังห้าเสือ” ไปลดทอนความทุกข์ยากลำบากเดือดร้อนของประชาชนทั้งประเทศ ผลที่ตามมาคือ รัฐมนตรีต้นปีได้ใจประชาชนเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน” ผอ.ซูเปอร์โพล ระบุ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

นายกฯสั่ง“คลัง”เตรียมระบบลงทะเบียน“คนละครึ่ง” 1 ล้านสิทธิ์ - “เราชนะ”รับ 7,000 บาท

20 ม.ค.พร้อมลงทะเบียน "คนละครึ่ง" รอบเก็บตก

ลงทะเบียน "เราชนะ" อายุ 18 ปีขึ้นไป มีสิทธิ์รับเงินเยียวยา 3500 บาท 

www.เราชนะ.com ลงทะเบียน เยียวยา3500 เช็กเลย เงื่อนไขใหม่  Negative list เป็นอย่างไร

เยียวยารอบ2 “เราชนะ” 3500 บาท กับ “เราไม่ทิ้งกัน” ต่างกันตรงไหน เช็กได้ที่นี่