สภาผู้แทนฯสหรัฐเดินหน้าความพยายามขับ "ทรัมป์" พ้นตำแหน่งวันนี้ (13 ม.ค.)

12 ม.ค. 2564 | 23:37 น.

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเดินหน้าความพยายามที่จะขับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ให้พ้นจากตำแหน่งผ่านกระบวนการยื่นญัตติถอดถอนฯ (อิมพีชเมนท์) ขณะที่ยังคงมีการประกาศภาวะสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงวอชิงตัน ดีซี

         

ในวันนี้ (13 ม.ค.) สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จะทำการลงมติต่อ ญัตติขอให้สภาเริ่มกระบวนการถอดถอนปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่ง หลังจากที่เขาได้ยุยงปลุกปั่นให้กลุ่มผู้สนับสนุนบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (6 ม.ค.) เพื่อขัดขวางกระบวนการประกาศรับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดนในการเลือกตั้งประธานาธิบดี

 

ก่อนหน้านี้ สภาผู้แทนฯยังได้ให้การรับรองญัตติเรียกร้องให้รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ และคณะรัฐมนตรี ใช้บทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ 25 เพื่อปลดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง ดังกล่าวด้วย แต่สภาฯก็ไม่มีอำนาจที่จะบังคับให้นายเพนซ์ปลดปธน.ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง และที่ผ่านมา นายเพนซ์ ก็มีท่าทีปฏิเสธที่จะดำเนินการดังกล่าว

 

ทั้งนี้ ตามขั้นตอนของกระบวนการยื่นถอดถอนปธน.นั้น สภาผู้แทนราษฎรจะเป็นฝ่ายแจ้งข้อกล่าวหาและเสนอให้มีการไต่สวนเพื่อนำไปสู่การยื่นญัตติถอดถอนประธานาธิบดี เมื่อสภาผู้แทนฯลงคะแนนให้มีการเสนอญัตติถอดถอนแล้ว จึงจะยื่นเรื่องให้วุฒิสภาเป็นผู้นำญัตติไปอภิปรายและโหวตลงคะแนนว่าจะถอดถอนประธานาธิบดีหรือไม่

 

ทางด้านปธน.ทรัมป์เอง ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับการเดินหน้ากระบวนการอิมพีชเมนท์ครั้งนี้ ซึ่งเป็นความพยายามครั้งที่สองในสมัยการดำรงตำแหน่งของเขาว่า การถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง เป็นเรื่องที่ “อันตราย” สำหรับสหรัฐและจะสร้างความไม่พอใจให้กับชาวอเมริกันจำนวนมาก ส่วนตัวเขาเองนั้น ไม่ต้องการให้มีความรุนแรงใด ๆเกิดขึ้น

 

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังยืนกรานว่า สิ่งที่เขากล่าวก่อนที่กลุ่มผู้สนับสนุนเขาจะบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ไม่มีเนื้อหาที่ยั่วยุแต่อย่างใด "คนมากมายมองว่าสิ่งที่ผมพูดเป็นเรื่องที่เหมาะสม" ปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าว ก่อนเดินทางไปยังรัฐเท็กซัสวานนี้ (12 ม.ค.)

สื่อต่างประเทศรายงานว่า ทรัมป์มีแผนกลับมาเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้งใน 4 ปีข้างหน้าและเขามีแผนประกาศเป็นทางการเกี่ยวกับเรื่องนี้ในวันที่นายโจ ไบเดน เข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ (20 ม.ค.) โดยทรัมป์เองได้ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมพิธีดังกล่าวตามธรรมเนียมปฏิบัติ ขณะที่นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีของเขา ได้ตอบรับที่จะเข้าร่วมพิธี

 

ทั้งนี้ เมื่อต้นสัปดาห์สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคเดโมแครตจำนวน 3 รายได้ยื่นญัตติถอดถอนปธน.ทรัมป์ออกจากตำแหน่งโดยญัตติดังกล่าวระบุว่า ปธน.ทรัมป์ได้กล่าวเท็จเกี่ยวกับการที่เขาพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีเพราะมีการโกงเลือกตั้ง และได้ปลุกระดมมวลชนให้บุกเข้าไปยังสภาคองเกรสในวันพุธที่ผ่านมา เพื่อขัดขวางกระบวนการประกาศรับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดนในการเลือกตั้งประธานาธิบดี

 

"การกระทำของปธน.ทรัมป์ถือเป็นการบ่อนทำลายระบอบประชาธิปไตย และแทรกแซงการถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติ รวมทั้งทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน ตราบใดที่เขายังอยู่ในตำแหน่งต่อไป ก็จะเป็นภัยต่อความมั่นคง ประชาธิปไตย และรัฐธรรมนูญ" ข้อความในญัตติระบุ 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

FBI เตือนอาจมีกลุ่มม็อบติดอาวุธ ก่อจลาจลทั่วสหรัฐช่วงสุดสัปดาห์นี้

ประมวลข่าวเหตุการณ์ “ม็อบหนุนทรัมป์” บุกรัฐสภาสหรัฐ

ทรัมป์โหมไฟ ขยี้ประชาธิปไตยสหรัฐ