สั่ง 400 รง.อาหารคุมเข้มขั้นสูงสุด ป้องส่งออก 1 ล้านล้านวูบ

09 ม.ค. 2564 | 01:16 น.

กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ส.อ.ท.กำชับสมาชิก 400 โรงงาน คุมเข้มขั้นสูงสุด ป้องกันแรงงานติดเชื้อโควิดลามกระทบความเชื่อมั่นคู่ค้า ป้องส่งออก 1 ล้านล้านวูบ

 

นายวิศิษฐ์  ลิ้มลือชา ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า จากที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ลามเข้าสู่โรงงานอุตสาหกรรม โดยเวลานี้โรงงานอุตสาหกรรมอาหารในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครบางแห่งมีผู้ติดเชื้อ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของคู่ค้า และกระทบต่อการส่งออกสินค้าอาหารของไทยที่ยังไปได้ดีในช่วงสถานการณ์วิดนั้น

 

ในส่วนของกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ส.อ.ท.ที่มีสมาชิกกว่า 400 รายได้ให้นโยบายโรงงานสมาชิกได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโควิด-19 ในผลิตภัณฑ์อาหารส่งออก ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดมาตรการพิเศษเพื่อป้องกันเชื้อโควิดสำหรับผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อการส่งออกอย่างเข้มข้นใน 4 เรื่อง คือ 1.เรื่องสถานที่และอาคารผลิต 2.เรื่องสุขาภิบาล 3.เรื่องการทำความสะอาด และ 4.เรื่องบุคลากร

 

สั่ง 400 รง.อาหารคุมเข้มขั้นสูงสุด ป้องส่งออก 1 ล้านล้านวูบ

                                    วิศิษฐ์  ลิ้มลือชา

 

โดยเรื่องสถานที่และอาคารผลิต มี 4 เรื่องสำคัญคือ 1.ก่อนเข้าและออกจากสถานที่ให้มีการเซ็นชื่อ ตอกบัตร หรือสแกน QR Code เพื่อตรวจสอบหากพบปัญหา 2.จัดสถานที่ อาคารผลิต และบริเวณต่าง ๆ ให้เหมาะสมเพื่อลดความแออัด 3.จัดให้มีห้องหรือบริเวณสำหรับพนักงานที่มีอาการเข้าเกณฑ์เพื่อประเมินความเสี่ยง  และ 4.จัดให้มีการระบายอากาศภายในอาคารผลิต รวมทั้งบริเวณห้องสุขา ห้องอาบน้ำ และห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า โดยให้มีการทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ และควรติดตั้งเครื่องกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง

 

 เรื่องสุขาภิบาล บริเวณการผลิตและห้องน้ำ จัดให้มีเครื่องมือ อุปกรณ์ที่เหมาะสมเพียงพอ พร้อมมาตรการป้องกันระหว่างปฏิบัติงาน ดังนี้ จัดสถานที่ให้มีการล้างมือด้วยสบู่เหลว หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค, มีอุปกรณ์ที่ทำให้มือแห้ง เช่น กระดาษเช็ดมือชนิดใช้แล้วทิ้ง, ให้มีถังขยะที่มีฝาปิดและต้องไม่ใช้มือสัมผัส และติดป้ายเตือนการล้างมือและวิธีการล้างที่ถูกต้อง

 

 เรื่องการทำความสะอาด ให้ความสำคัญและเคร่งครัดในการทำความสะอาด และฆ่าเชื้ออาคารผลิต เครื่องจักร ห้องน้ำ รวมทั้งพื้นผิวและจุดเสี่ยงที่มีการสัมผัสร่วมกัน เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได ปุ๋มกดลิฟต์โดยสาร เก้าอี้ โต๊ะกินข้าว เป็นต้น

 

เรื่องบุคลากร ให้มีมาตรการคัดกรองไข้ และระบบทางเดินหายใจสำหรับพนักงานก่อนเข้าสถานที่ปฏิบัติงาน พร้อมทั้งให้มีการเก็บข้อมูลเพื่อติดตามได้ทุกคน, ให้พนักงานสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าขณะปฏิบัติงานตลอดเวลา และมีการเปลี่ยนใหม่ตามความเหมาะสม รวมถึงทำความสะอาด จัดเก็บและทิ้งอย่างถูกต้อง , กรณีใช้ถุงมือควรเปลี่ยนบ่อยขึ้น และล้างมือเมื่อมีการเปลี่ยนใหม่ทุกครั้ง รวมทั้งล้างมือหลังทำกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับอาหาร เช่น จับลูกบิดประตู ปุ๋มกดลิฟต์ เป็นต้น, เว้นระยะนั่งหรือยืนห่างกัน และเว้นระยะห่างระหว่างปฏิบัติงานอย่างน้อย 1 เมตร หรือกรณีที่มีข้อจำกัดไม่สามารถเว้นระยะห่างได้ให้งดการพูดคุยระหว่างการปฏิบัติงาน และกรณีขนส่งควรมีมาตรการป้องกันการปนเปื้อนระหว่างผู้ขนส่งและอาหาร เช่น ใช้ฉากกั้น เป็นต้น และควรทำความสะอาดมือด้วยแอลกอฮอล์หรือยาฆ่าเชื้อก่อนส่งมอบสินค้า

 

สั่ง 400 รง.อาหารคุมเข้มขั้นสูงสุด ป้องส่งออก 1 ล้านล้านวูบ

 

“มาตรการต่าง ๆ ข้างต้นได้ให้โรงงานสมาชิกดำเนินการตั้งแต่โควิดระบาดรอบแรก  และให้เพิ่มความเข้มงวดมากขึ้นในการระบาดรอบใหม่ ซึ่งจากที่ตรวจพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากในบางโรงงาน มองในแง่ดีสามารถบริหารจัดการได้ง่ายกว่าเพราะเป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน สามารถคัดกรองและคัดแยกผู้ป่วยเพื่อรับการรักษาได้ง่ายกว่าการกระจายเชื้อในหลายพื้นที่ รวมถึงการทำบิ๊กคลีนนิ่งหลังตรวจพบผู้ป่วย ซึ่งในแง่สินค้าอาหารของไทยแล้วในภาพรวมผลิตสินค้าได้มาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล ไม่เป็นพาหะนำโรค แต่ที่ติดเชื้อคือคนสู่คน ซึ่งทางกลุ่มได้กำชับให้แต่ละโรงงานเพิ่มมาตรการที่เข้มงวดตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข และองค์การอนามัยโลก”

 

สั่ง 400 รง.อาหารคุมเข้มขั้นสูงสุด ป้องส่งออก 1 ล้านล้านวูบ

 

ทั้งนี้การส่งออกสินค้าอาหารของไทยในปี 2563 คาดจะขยายตัวลดลงจากปี 2562 ที่ส่งออกได้ 1.02 ล้านล้านบาทไม่เกิน 2% โดยกลุ่มที่ส่งออกได้เพิ่มขึ้น เช่นทูน่ากระป๋อง อาหารสัตว์เลี้ยง เครื่องปรุงรส เป็นต้น ส่วนที่ส่งออกได้ลดลง เช่น ข้าว น้ำตาล อาหารทะเลแช่แข็ง เป็นต้น ส่วนแนวโน้มการส่งออกปี 2564 อยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รวมข่าว "โควิด-19" วันที่ 9 ม.ค.64 แบบอัพเดทล่าสุด

กกร.ชี้โควิด-19ยังพ่นพิษ ทำส่งออกไตรมาสแรกไม่ฟื้น

สมุทรสาครเตรียมเปิด"ตลาดกลางกุ้ง"