ตลท.จ่อออกเกณฑ์คุมหุ้นฟรีโฟลทต่ำ ลดความผันผวนในตลาดหุ้น

08 ม.ค. 2564 | 09:50 น.

ตลาดหลักทรัพย์ เล็งหารือ ก.ล.ต.ออกเกณฑ์คุมหุ้นฟรีโฟลทต่ำ หวังลดความผันผวนในตลาดหุ้น

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.อยู่ระหว่างพิจารณาปรับปรุงมาตรการกำกับดูแลหุ้นที่มีสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อยอยู่ในระดับต่ำ(ฟรีโฟลทต่ำ)จากปัจจุบันที่มีวิธีการจัดการอยู่  3-4 แนวทาง ซึ่งหากได้ข้อสรุป จะนำเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อออกหลักเกณฑ์ต่อไป

ภากร ปีตธวัชชัย

ที่ผ่านมา ตลท.มีขั้นตอนกำกับดูแลหุ้นที่มีฟรีโฟลทต่ำอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น กำหนดให้มีการกระจายการถือหุ้นรายย่อยอย่างน้อย 15% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ซึ่งหากเทียบกับต่างประเทศ ถือว่าไม่ได้ต่ำ เพราะต่างประเทศอยู่ที่ 10-15%, การเปิดเผยข้อมูลให้ผู้ลงทุนได้รับทราบเพื่อกระตุ้นให้บริษัทจดทะเบียนมีฟรีโฟลทเพิ่มขึ้นให้ได้ตามเกณฑ์

 

การซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีฟรีโฟลทต่ำนั้น ตลท.ดูแลทุกบริษัทอย่างเท่าเทียมกันตามสภาวะต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งหากพบว่า ราคาซื้อขายที่ผิดปกติ ก็จะติดตามให้บริษัทจดทะเบียนนั้นๆ เปิดเผยถึงพัฒนาการที่มีผลต่อความเคลื่อนไหสของราคาหลักทรัพย์ เพื่อให้นักลงทุนได้รับทราบอย่างเท่าเทียมกัน รวมถึงมีมาตรการกำกับดูแลการซื้อขายต่างๆ เช่น การซื้อขายด้วยบัญชีวางเงินล่วงหน้า (cash balance)”

 

“ที่ผ่านมา เรากำกับดูแลตามขั้นตอนมาตรฐาน แต่ด้วยสภาวะแวดล้อมในช่วงนี้ เป็นปัจจัยให้เราคำนึงเพิ่มขึ้น ว่าเราจะสามารถทำอะไรเพิ่มได้อีก ซึ่งก็อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา เช่น จะสามารถมีมาตรการกำกับดูแล เพื่อทำให้ตลาดไม่ผันผวนได้อย่างไร และเราก็จะมีการหารือกับก.ล.ต. หากมีความคืบหน้าก็จะนำเรียนในลำดับต่อไป"นายภากร กล่าว

ขณะที่ปีนี้ ตลท.วางเป้าหมายมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) ของหลักทรัพย์ที่เข้าจดทะเบียนใหม่ (IPO) อยู่ในระดับสูงใกล้เคียงกับปี 62-63 เนื่องจากมีบริษัทให้ความสนใจเข้ามาระดมทุนค่อนข้างมาก ปัจจัยสนับสนุนจะขึ้นอยู่กับ 3 ด้าน คือ ความพร้อมของข้อมูล, ความต้องการใช้เงินของบริษัทจดทะเบียน และสภาวะตลาดทุนไทย ขณะเดียวกัน ตลท.จะมุ่งเน้นการส่งเสริมให้มีบริษัทจดทะเบียนในอุตสาหกรรมใหม่ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ (New S-Curve) เป็นต้น

 

ขณะที่การเปิดให้บริษัทจากต่างประเทศเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย ยังคงเน้นที่จะเริ่มจากกลุ่มบริษัทในประเทศ CLMV แต่ในปีที่ผ่านมาอาจเห็นการเลื่อนการเข้าจดทะเบียนฯ ไปบ้าง เนื่องจากการเตรียมความพร้อมด้านข้อมูลของบริษัทที่ต้องการระดมทุนที่ยังล่าช้า ภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์ และหลังเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้การเดินทางไปตรวจสอบกิจการค่อนข้างติดขัด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตลท.เปิดแผนกลยุทธ์ปี 64-66

'ประสาร-อนุชิต-กุลภัทรา' นั่งบอร์ดตลท.

ตลท.ขีดเส้นตาย IFEC ส่งงบภายในสิ้นมี.ค.ก่อนถูกเพิกถอนหุ้น