แก้ปัญหาโควิด เหมือนคน ถูกปิดตาพาเดิน

05 ม.ค. 2564 | 11:00 น.

แก้ปัญหาโควิด เหมือนคน ถูกปิดตาพาเดิน : คอลัมน์ฐานโซไซตี หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3642 ระหว่างวันที่ 7-9 ม.ค.2564 โดย...กาแฟขม


*** ฐานเศรษฐกิจเขย่าข่าวรับศักราชใหม่ปี 2564 โดยกาแฟขม ประจำการ เกาะติดความเคลื่อนไหวในสายธารกระแสข่าวสารข้อมูลที่เลื่อนไหลไม่หยุดนิ่ง
 

*** ล่วงเข้าปี 2564 ปีนักษัตรฉลู ไม่รู้วัวบ้า หรือ กระทิงเปลี่ยว ดุตั้งแต่ต้นปีด้วยยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 พุ่งทุบสถิติเป็นรายวัน ยอดผู้ติดเชื้อเมื่อวันที่ 4 ม.ค.2564 พบติดเชื้อ 745 ราย แสดงอาการบ่งบอกประเทศไทยไม่ปลอดภัยจากโควิดแล้ว และแนวโน้มผู้ติดเชื้อจะสูงขึ้นๆ เป็นรายวัน หลังจากกลับกันมาจากเทศกาลปีใหม่
 

*** ต้นตอของโรคระบาดระลอกใหม่เที่ยวนี้ มาจากขบวนการค้าแรงงานเถื่อน บ่อนการพนัน ที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดใหญ่และยากต่อการควบคุมป้องกัน ซึ่ง 2 สาเหตุที่ว่าล้วนเกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่หละหลวม จ้องหาประโยชน์ คราวที่แล้วจากผับทองหล่อ สู่สนามมวยลุมพินี คราวนี้จากเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ 1G1 พม่า แรงงานตลาดกุ้งสมุทรสาคร สู่บ่อนระยอง บ่อนชลบุรี และเชื้อก็กระจายไปทั่วไทย ใครๆๆ จะรับผิดชอบที่ปล่อยให้คนไทยต้องรับชะตากรรมที่ไม่พึงประสงค์ ด้วยความที่เห็นแก่ตัวเห็นแก่ประโยชน์ลำพังตัวของคนๆๆ ที่เรียกว่าเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้ปากท้องของคนไทยอดอยากล้มตาย


*** การตัดสินใจบริหารสถานการณ์ บริหารความเสี่ยงรอบนี้ รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สอบตกอย่างสิ้นเชิง จากป้อมปราการที่แข็งแกร่งและแทบจะเป็นสิ่งเดียวที่สร้างความภาคภูมิใจและพูดจากับใครต่อใครได้ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในการแก้ปัญหาควบคุมโควิด-19ของประเทศไทย  บัดนี้ป้อมปราการนั้นได้พังทะลายลงแล้ว ป้อมปราการได้ทรุดลงด้วยน้ำมือของตัวเอง จากการรีๆ รอๆ ไม่กล้าตัดสินใจที่เด็ดขาด ปล่อยให้มีการนำพาพาหะแพร่เชื้อกระจายออกไป แทนที่การตัดสินใจล็อกดาวน์ช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่กลับไม่ได้ทำและปล่อยให้จังหวัดไปคุมไปหามาตรการกันเอาเอง ก่อนมาปรับภายหลังก็ช้าไปแล้ว แล้วยังมาบอกขอความร่วมมือประชาชนให้ล็อกดาวน์ตัวเอง
 

*** ประชาชนคนไทยเขาพร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐบาลทุกประการ  พร้อมปฏิบัติตามกฎกติกาทุกประการ แต่รัฐบาล ผู้นำ ครม.ก็ต้องแสดงให้เห็น เสนอภาพให้พวกเขาได้เห็น ได้รู้ ว่าพวกเขาจะเจ็บอย่างไร อดทนเจ็บปวดไปนานเท่าไหร่ หลังจากเจ็บช้ำแล้ว เขาจะมีโอกาสได้อะไร ถ้าเขาโดนแบบนี้แล้ว ประเทศชาติใน 3 เดือนข้างหน้าจะเป็นอย่างไร 6 เดือนข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่ก็ไม่ใช่การปฏิบัติไปเป็นวันๆ โดยไม่รู้เหมือนคนหูไม่ได้ยิน พูดไม่ได้ ถูกปิดตาพาเดิน เราคนไทยกำลังฝากชีวิต ฝากชะตากรรมไว้กับใครหรือ
 

*** จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นรายวัน ระวังกันไว้ให้ดีๆ มันจะเกินขีดความสามารถของโครงสร้างทางสาธารณสุขที่แข็งแกร่งของไทยจะรับไหว หมอเตือนต้องฟังโรคระบาดโควิดในไทยเข้าขั้นวิกฤติแล้ว ระบาดซ้ำ เร็ว แรง คุมยาก หาต้นตอลำบาก มีเตียงมีคนมียามีอุปกรณ์แค่ไหนก็ไม่เพียงพอ คนติดเชื้อพร้อมกันเยอะในช่วงเดียวกันก็จะตายมาก เพราะดูแลไม่ทั่วถึงและของไม่เพียงพอ จับตากลางเดือนนี้หากยอดระบาดเกิน 500 ต่อวัน โอกาสระบาดหนักในเดือนถัดไปจะมีสูงมาก และอาจต้องสู้ยาวกว่าเดือนมีนาคม ขึ้นอยู่กับมาตรการที่เข้มข้นและความร่วมมือของประชาชน ไม่ว่าจะอยู่โซนสีอะไรก็ให้อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติกันเถิด


*** ห่วงเศรษฐกิจกลายเป็นชักเข้าชักออก เที่ยงกทม.สั่งนั่งรัปประทานอาหารได้ถึง 19.00 น. ตกบ่ายนายกรัฐมนตรีสั่งเองยกเลิกประกาศกทม.ให้นั่งรัปประทานอาหารที่ร้านได้ถึง 21.00 น. ด้วยเหตุได้รับข้อร้องเรียนจากสมาคมภัตตาคารและร้านอาหารโดยแท้ คงกลัวตัวเลขที่ว่ากันว่าถ้าปิดร้านอาหารจะสูญแสนล้าน แต่ตัวเลขถ้าเสียชีวิตจากโควสิด-19 กันมาก ไม่เสียหายมากว่าแสนๆ ล้านหรือ เอากันเข้าไป ประเทศนี้ บ้านนี้ เมืองนี้
 

*** ว่ากันแต่การแพร่ระบาด ไม่ว่ากันเรื่องวัคซีนเลยคงไม่ได้ แต่ทำไมประเทศไทยถึงได้ช้ากว่าใครเพื่อน เราไปผูกติดยึดโยงอยู่กับอังกฤษอย่างเดียวหรืออย่างไร ได้ถามไถ่ประเทศ บริษัท ประเทศผู้ผลิตรายอื่นกันไว้บ้างหรือไม่ มีทางไหนที่จะได้เร็วกว่าเดือนมิ.ย.2564 ไหม ล่าสุดนายกฯ บอกอีก 1 -2 เดือนจะได้วัคซีนในส่วนแรก แต่เป็นของต่างประเทศ แต่ก็มีความจำเป็นที่ต้องนำเข้ามา เนื่องจากเป็นห่วงบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 2 ล้านโดสที่เหลือ 26 ล้านโดสต้องรอที่จองไว้ ก็เตือนกันไว้ตรงนี้อีกหน่อยจะเกิดความเหลื่อมล้ำด้านวัคซีน คนมีสตังค์อาจจะนั่งเครื่องบินส่วนตัว ไปฉีดวัคซีนที่ประเทศเพื่อนบ้านก็เป็นได้ ถ้าไทยยังจัดหาได้ล่าช้า กลายเป็นคนรวยรอด คนจนม้วย ภาวนาขออย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น ขอให้รัฐบาลไทยกระฉับกระเฉงในเรื่องวัคซีน สร้างสมดุล เท่าเทียมกันด้วยเถิด
 

*** สู้กันต่อไปพี่น้องชาวไทย จำกันให้มั่นและปฏิบัติให้เคร่งครัด คัมภีร์รักษาตัวรอดจากโควิด “รักกันให้ห่างไกล รักใครให้ห่างกัน แล้วท่านจะปลอดภัย” เอากันที่ช่วงระยะเวลาอันตรายนี้ก่อน ผ่านพ้นได้ค่อยไปพบไปเจอกันก็ไม่ได้สายเกินไป ออกจากบ้านสวมใส่หน้ากากตลอดเวลา เว้นระยะห่างผู้คนเกิน 1 เมตร ไม่ไปในสถานที่ชุมนุมชนคนหมู่มาก ในวาระปีใหม่2564 นี้ ขอให้ทุกท่านผ่านพ้นอุปสรรค แคล้วคลาดปลอดภัย ผ่านพ้นโพยภัย โรคาพยาธิทั้งปวงที่จะเข้ามาแผ้วพานไปได้ ด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง มีสติ และกำลังวังชาที่สมบูรณ์