ผู้สูงอายุมีเฮ กทม. ผุด “โครงการบ้านพักคนชราบึงสะแกงาม”

05 ม.ค. 2564 | 07:05 น.

กทม.เดินหน้าโครงการบ้านพักคนชราบึงสะแกงาม หลังได้รับบริจาคที่ดินผู้มีจิตศรัทธา เตรียมแบ่งพื้นที่ 3 ส่วน หวังรองรับผู้สูงอายุได้กว่า 150 คน คาดดำเนินการแล้วเสร็จปี 65

พล.ต.อ.อัศวิน  ขวัญเมือง  ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.)  เปิดเผยภายหลังการประชุมหัวหน้าหน่วยงานกรุงเทพมหานคร ว่า กรุงเทพมหานครได้จัดทำโครงการบ้านพักผู้สูงอายุ บึงสะแกงาม เขตคลองสามวา ซึ่งกรุงเทพมหานครได้รับบริจาคที่ดินรวม 32-1-16 ไร่ มาจากผู้มีจิตศรัทธา ตั้งอยู่ในบริเวณบึงสะแกงาม แนวคิดการออกแบบคือการสร้างความสุขให้ผู้สูงอายุในบั้นปลายชีวิตด้วยวิธีธรรมชาติบำบัด แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนสาธารณะ ได้แก่ อาคารศูนย์บริการสาธารณสุข และลานจอดรถยนต์ ส่วนกึ่งสาธารณะ ได้แก่ อาคารอำนวยการ และอาคารฝึกอาชีพ อาคารศูนย์อาหาร สวนสุขภาพ อาคารกายภาพบำบัด ธาราบำบัด และส่วนที่พักอาศัย ได้แก่ บ้านพักอาศัย อาคารบริการและพักอาศัยเจ้าหน้าที่ และอาคารกิจกรรม คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 65 สามารถรองรับผู้สูงอายุได้กว่า 150 คน สำหรับงบประมาณในการดำเนินการมีทั้งงบประมาณของกรุงเทพมหานครเอง และเงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา

ผู้สูงอายุมีเฮ  กทม. ผุด “โครงการบ้านพักคนชราบึงสะแกงาม”

 สำหรับแนวทางการดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานครได้มอบหมายให้สำนักงานเขตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งลงพื้นที่ตรวจสถานประกอบการ ร้านอาหารต่างๆ ในพื้นที่ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัด อาทิ เวลาในการให้บริการ การเว้นระยะห่าง การใช้แพลตฟอร์ม ไทยชนะการเก็บข้อมูลผู้ที่มาใช้บริการ การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า การจัดจุดล้างมือหรือแอลกอฮอล์ไว้บริการ และห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้นั่งดื่มภายในร้านอาหาร เป็นต้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องการเชื้อโควิด-19 พร้อมกันนี้ได้กำชับให้หน่วยงานต่างๆ พิจารณาถึงการทำงานจากที่บ้าน (WFH) ของบุคลากรในหน่วยงาน เพื่อลดความแออัดในสถานที่ทำงาน โดยเฉพาะบุคลากรที่พักอาศัยในจังหวัดพื้นที่เสี่ยง หากสามารถทำได้ก็ให้ปฏิบัติงานจากที่บ้านแทนการเดินทางมาทำงานตามปกติ

 นอกจากนี้กรุงเทพมหานครได้ลดจำนวนจุดสกัดและตรวจคัดกรองจาก 14 จุด เหลือ 8 จุด เพื่อให้มีความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่เป็นหลัก พร้อมขอความร่วมมือประชาชนให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ล้างมือบ่อยๆ และมีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ซึ่งเป็นวิธีที่ทุกคนสามารถทำได้เพื่อช่วยกันป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19