จับสัญญาณ “ล็อกดาวน์” จากโฆษกศบค. (คลิป)

30 ธ.ค. 2563 | 07:28 น.

“หมอทวีศิลป์” ยอมรับศบค.หนักใจกับการตัดสินใจล็อกดาวน์ ระบุแทนที่จะเป็นเคานต์ดาวน์ปีใหม่ อาจจะเป็นเคานต์อัพแทน เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดพุ่ง

วันที่ 30 ธ.ค.2563  เวลา 11.30 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวว่า ที่ผ่านมาต่างประเทศเขา “ล็อกดาวน์” หลายรอบ เป็นสิ่งที่เขาพบมา แต่ตัวเลขวันนี้ทำให้หวั่นใจว่ามันจะเดินไปทางไหน 

 

สิ่งที่เราไม่อยากจะเห็นภาพคือ การล็อกดาวน์รอบที่ 2 และ 3 ไม่อยากให้เกิด วันนี้ตัวเลขสามหลัก และตัวเลขนำหน้าคือเลขสอง พรุ่งนี้จะเป็นเท่าไหร่ ถ้าสถานการณ์ที่เราควบคุมกันไม่ได้ คุยกันไม่ได้ แทนที่จะเป็นเคานต์ดาวน์ปีใหม่ อาจจะเป็นเคานต์อัพ ซึ่งเป็นคำของ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร อดีต รมว.สาธารณสุข

 

เคานต์ดาวน์เพื่อนับถอยหลังฉลองปีใหม่ แต่บรรยากาศแบบนี้ถ้าทุกคนไม่เว้นระยะห่าง ไม่สวมหน้ากาก ยืนเกาะกลุ่ม ในมือมีแอลกอฮอล์ก็ขาดสติในช่วงเวลาตอนนั้น หลังจากนั้นเราจะต้องเคานต์ดาวน์อัพ นับจำนวนเพิ่มขึ้นแน่นอนกับคนที่ติดเชื้อโควิด-19 เราไม่อยากจะเห็นภาพนั้น”นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว 

เมื่อถามว่า บางพื้นที่ยังไม่ยกเลิกกิจกรรมเคานต์ดาวน์จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ศบค.กังวลใจในเรื่องดังกล่าว จึงจะมีการออกประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ซึ่งอาจจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด โดยจะให้มีผลตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. เพื่อห้ามมั่วสุมในลักษณะที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค หรือการกระทำอันเป็นการฉวยโอกาสซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน หรือการกลั่นแกล้งเพื่อแพร่เชื้อโรค ณ ที่ใดๆ ทั่วราชอาณาจักร 

 

ห้ามการชุมนุมหรือทำกิจกรรมแออัดเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและพื้นที่ควบคุม เว้นแต่กิจกรรมภายในครอบครัว ในเคหะสถานของตัวเอง หรือกิจกรรมของทางราชการ ส่วนการชุมนุมหรือการทำกิจกรรมในพื้นที่เฝ้าระวังสูงและพื้นที่เฝ้าระวังต้องขออนุญาตต่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการจังหวัด เว้นแต่การทำกิจกรรมภายในครอบครัว  

 

เมื่อถามว่า ผู้ที่เดินทางออกจากจังหวัดที่มีการติดเชื้อจำนวนมากจะต้องมีการกักตัวหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับจังหวัดปลายทางที่จะไปว่าเขามีประกาศและข้อกำหนดอย่างไรบ้าง หากกำหนดว่ามาพื้นที่ใดแล้วต้องกักตัวก็ต้องปฏิบัติตามนั้น ขอให้รอประกาศที่ชัดเจนจากจังหวัดนั้นๆ รวมถึงหากเดินทางไปจังหวัดต่างๆ แล้วจะกลับจังหวัดต้นทางต้องดูด้วยว่าทางจังหวัดต้นทางมีการเปลี่ยนแปลงประกาศและข้อกำหนดอะไรหรือไม่ ซึ่งก็ต้องปฏิบัติตามเช่นกัน แต่ดีที่สุดคือ การอยู่กับบ้าน งดการเดินทาง 

 

เมื่อถามว่า ขณะนี้ประชาชนที่จองตั๋วเครื่องบินตามโครงการเราเที่ยวด้วยกัน แต่เมื่อมีการแพร่ระบาดเกิดขึ้น พอขอเลื่อนกลับได้รับคำตอบว่ายังไม่มีประกาศห้ามเดินทาง ศบค.จะให้การช่วยเหลืออย่างไร นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เมื่อได้รับการร้องทุกข์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศบค. ได้ประสานสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยเพื่อช่วยเหลือเยียวยาคนที่ทำตามคำแนะนำของ ศบค. และจากการพูดคุยกับ 6 สายการบินที่ประกอบด้วย ไทยสมายล์ นกแอร์ แอร์เอเชีย บางกอกแอร์เวย์ ไทยเวียตเจ็ท และไลอ้อนแอร์ ได้ให้ความร่วมมือโดยมีเงื่อนไข 3 ข้อคือ สามารถเปลี่ยนเที่ยวบินได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม ปรับเปลี่ยนเส้นทางการบินได้ หรือเก็บวงเงินในรูปแบบเครดิตเพื่อใช้ในการเดินทางครั้งหน้า ซึ่งแต่ละสายการบินมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน ขอให้ประชาชนไปติดตามรายละเอียดและรีบประสานกับสายการบินนั้นๆ 

โฆษก ศบค. กล่าวตอนท้ายว่า การมายืนรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้นทุกวัน “ผมไม่สบายใจ ไม่เข้ากับบรรยากาศปีใหม่ แต่ต้องเผชิญความเป็นจริง ในการประชุมของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ทุกคนบอกว่าทุกอย่างต้องรีบบอกประชาชนโดยเร็ว ไม่มีการปกปิด ซึ่งผมสบายใจที่ได้สะท้อนภาพความเป็นจริง และไม่ได้รับคำสั่งให้ปิดบังอะไร อย่างไรก็ตาม ความไม่สบายใจเรื่องตัวเลขผู้ติดเชื้อนั้น ไม่ใช่ความไม่สบายใจทางการแพทย์อย่างเดียว แต่ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนต้องร่วมมือกัน ตอนนี้เราทราบว่าแหล่งของการแพร่เชื้อมีทั้งสถานบันเทิงในตอนกลางคืนที่มีความใกล้ชิดและไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ หรือสถานที่ลักลอบเล่นการพนัน กลุ่มคนเหล่านี้ก็ยังไม่ได้มีวุฒิภาวะเพียงพอในการรับผิดชอบตัวเอง ภาพเหล่านี้สะท้อนออกมาว่ามีคนติดเชื้อมากขึ้น 

 

“คนสูงอายุ คนที่ยังเล่นอยู่ทั้งที่จากเดิมเป็นคนที่ระมัดระวังตัวเองมากกลับกลายเป็นว่ามีตัวเลขสูงขึ้น เพราะฉะนั้นการสะท้อนภาพเช่นนี้ทำให้อึดอัดใจมาก อยากผ่องถ่ายความไม่สบายใจนี้ให้ประชาชนต้องรับร่วมกัน วันนี้คือ 30 ธ.ค. เป็นช่วงที่ควรเคาต์ดาวน์แบบมีความสุข แต่กลับกลายเป็นเคาต์อัพ จะกลายเป็น 300 หรือ 400 ในวัดถัดไปหรือไม่ หรือจะเป็นพันเป็นหมื่นอย่างที่เราตกใจกลัว ความทุกข์ด้านนี้จะอยู่ที่ภาครัฐ เอกชน หรือประชาชนคนใดคนหนึ่งไม่ได้ ทุกคนต้องช่วยกัน อีกไม่กี่นาทีที่จะหยุดงาน ขอให้อยู่ในทุกวินาทีที่ต้องระวังตัว มีสติในการร่วมมือกัน การดูแลสุขอนามัยส่วนตัวง่ายที่สุดคือ การใส่หน้ากาก และถ้าไม่จำเป็นต้องเดินทางก็อย่าเดินทาง” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

 

ขอบคุณคลิปที่มา ศูนย์ข้อมูล Covid-19

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รวมข่าว "โควิด-19" วันที่ 30 ธ.ค.63 แบบอัพเดทล่าสุด

ยอดโควิด 30 ธ.ค.63 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 250 ราย จากในประเทศ 241 ราย ต่างประเทศ 9 ราย

"ชลบุรี"คุมเข้มโควิดอำเภอบางละมุง สั่งปิดห้าง-สถานบริการ

อย่าไปเก้อ ปิดแล้ว 25 แหล่งท่องเที่ยวใน10 จังหวัดคุมโควิด

"หมอยง"ร่ายยาววัคซีนโควิด-19 ทำไมไทยจึงช้า