ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท ไมโครซอฟต์ ประเทศไทย จำกัด จัดงานสัมมนา “Digital CFO: บทบาทผู้บริหารในยุค Digital Transformation” เพื่อให้ความรู้กับผู้บริหารทางด้านการเงินของเอสเอ็มอีไทย ภายในงานนอกจากการให้ความรู้กับผู้บริหารการเงินที่ต้องเปลี่ยนมุมมองและรู้จักการนำดิจิทัลมาใช้ขับเคลื่อนองค์กรด้านการลงทุน การวางแผนบริหารการเงิน แล้วยังได้แลกเปลี่ยนมุมมองจากเอสเอ็มอีไทยที่เข้าร่วมโครงการSmart Business Transformation (SBTP) เกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ดิจิทัล
นักบริหารการเงินเปลี่ยนมุมมองสู่เศรษฐกิจแบบคลาวด์
นางสุภาณี อนุวงศ์วรเวทย์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการเงิน บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าปัจจุบันเทคโนโลยีคลาวด์ได้เข้ามาเพิ่มมิติใหม่ ๆ ในการบริหารจัดการด้านการเงินจากค่าใช้จ่ายด้านเงินทุน (CAPEX ) เป็นค่าใช้จ่ายด้านการดำเนินงาน (OPEX ) ลดเงินลงทุนก้อนใหญ่ เพิ่มความคล่องตัวและการเติบโต บางองค์กรสามารถเปลี่ยนลำดับความสำคัญในการลงทุน จากเดิมทุ่มลงทุนไปกับสินทรัพย์ถาวรขององค์กร หรือ CAPEX กลายมาเป็นการเน้น OPEX หรือเม็ดเงินที่หมุนเวียนให้เกิดผลในการทำงานจริงแบบวันต่อวันแทน จนเกิดเป็นมุมมองใหม่ทางเศรษฐกิจและการลงทุนที่เรียกได้ว่า “Cloud Economy” หรือ “เศรษฐกิจแบบคลาวด์” ซึ่งเป็นการลดภาระการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานทางไอทีได้จำนวนมาก เหลือเพียงแค่ค่าใช้บริการที่ชำระตามปริมาณการใช้งานจริงลดภาระค่าใช้จ่ายขององค์กร รวมถึงประเด็นค่าเสื่อมราคาอีกด้วย
ขณะที่นางสาวกัญลิกา บุษปวนิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ พาณิชย์ธนกิจ ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่ายูโอบีเห็นถึงโอกาสและความท้าทายต่างๆ ที่ลูกค้ากำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบันและที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะบทบาทของดิจิทัลต่อการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันและอนาคต ธนาคารจึงพร้อมที่จะสนับสนุนเอสเอ็มอีและลูกค้าองค์กรให้ก้าวข้ามอุปสรรคด้วยการนำเทคโนโลยีไปใช้พัฒนาและสร้างธุรกิจเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
เพอร์เฟ็ค เปเปอร์ เอสเอ็มอีในโครงการSBTP ปรับองค์กรสู่ดิจิทัล
บริษัท เพอร์เฟ็ค เปเปอร์ จำกัด โดยคุณศรินทร พันธุ์โสภา ผู้จัดการทั่วไป ผู้บริหารรุ่นที่ 2 ที่รับช่วงธุรกิจครอบครัวซึ่งเป็นธุรกิจรับซื้อและจำหน่ายเศษกระดาษรีไซเคิลเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมกระดาษ ได้เข้าร่วมโครงการ Smart Business Transformation เพื่อเรียนรู้ที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นเป็นการเปิดโอกาสให้พนักงานได้สัมผัสกับการวิเคราะห์ข้อมูลโดยตรง โดยบริษัทได้นำระบบวิเคราะห์ข้อมูล Power BI และบริการ Dynamics 365 ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติด้าน ERP ทำให้สามารถมองเห็นสถานการณ์ของบริษัทได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งด้านการเงิน โลจิสติกส์ และการตลาด โดยจากข้อมูลเหล่านี้ คุณศรินทรคาดว่าจะสามารถช่วยลดรายจ่ายของบริษัทลงได้ไม่ต่ำกว่า 15% และคาดว่าเพิ่มโอกาสการขายรวมถึงยอดขายที่สูงขึ้นเท่าตัวอีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
6เรื่องที่เอสเอ็มอีต้องปรับสู่ดิจิทัลสร้างภูมิคุ้มกัน
‘ช้อปปี้’ ผนึก 4 แบงค์ติวเข้มธุรกิจ ติดปีกออนไลน์