“BLCP”ผนึก “วว.” นำชีวมวลร่วมกับถ่านหินในการผลิตไฟฟ้า

24 ธ.ค. 2563 | 08:00 น.

“BLCP”ผนึก “วว.” นำชีวมวลร่วมกับถ่านหินในการผลิตไฟฟ้าสร้างผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มจากของเหลือทิ้ง

นายยุทธนา เจริญวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท บีแอลพีซี เพาเวอร์ จำกัด หรือ BLCP เปิดเผยว่า บริษัทได้ดำเนินการร่วมมือกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เพื่อวิจัยและพัฒนาชีวมวลร่วมกับถ่านหินในการผลิตไฟฟ้า สร้างผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มจากของเหลือทิ้ง ใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ผลิตเป็นเมทานอล  สนับสนุนการใช้องค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ตอบโจทย์ความต้องการภาคอุตสาหกรรม ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม สร้างประโยชน์เศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ บีแอลซีพี มีแนวคิดในการส่งเสริมวิจัย วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน บนเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยเฉพาะการพัฒนาอุตสาหกรรมควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  อีกทั้งมุ่งเน้นการตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนและประชาชนในพื้นที่ต่างๆ  มีนโยบายในการทำให้วัสดุเหลือใช้หรือขยะจากกระบวนผลิตให้เป็นศูนย์ 

อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เริ่มโครงการความร่วมมือกับ วว. ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 เป็นต้นมาในการค้นคว้าและพัฒนา พบว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์จากก๊าซปล่อยทิ้งของโรงผลิตไฟฟ้าถ่านหิน CO2 มารวมกับ H2 ที่ได้มาจากกระบวนการเช่นกัน สามารถพัฒนาเป็นเมทานอลที่เป็นประโยชน์กับวงการแพทย์และอุตสาหกรรม ซึ่งจุดประกายให้เกิดแนวคิดในการร่วมมือค้นคว้าพัฒนาเชิงนวัตกรรมร่วมกับ วว. ในอีก 5 โครงการ

“BLCP”ผนึก “วว.” นำชีวมวลร่วมกับถ่านหินในการผลิตไฟฟ้า  

“บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่า ด้วยศักยภาพและความมุ่งมั่นของทีมผู้บริหารและนักวิจัยของ วว. จะก่อให้เกิดงานวิจัยที่สำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมในอนาคตอันใกล้สร้างสังคมที่มีความสุข ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ เพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมต่อไป  โดยเป้าหมายหลักของ BLCP คือ การมุ่งไปที่ BCG Model อันจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน  ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง หลายภาคส่วนที่ร่วมงานกับบริษัทฯ นั้น ก็ได้รับการเผยแพร่โครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง”

นางชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง วว. และบีแอลซีพี (BLCP Power Limited) เป็นเฟสที่ 3 แล้ว เป็นการต่อยอดความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังบูรณาการความร่วมมือระหว่าง ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมพลังงานสะอาดและสิ่งแวดล้อม ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมวัสดุ ศูนย์ความหลากหลายทางชีวภาพ วว. ที่มีทีมนักวิจัยที่เข้มแข็ง พร้อมที่จะนำศักยภาพมาร่วมกันดำเนินงาน โดยมุ่งใช้ประโยชน์และสร้างมูลค่าเพิ่มจากของเหลือทิ้ง โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อนำองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม สร้างมูลค่าเพิ่มให้ของเหลือทิ้งจากโรงงานผลิตไฟฟ้า ก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ผ่านโครงการความร่วมมือ 5 โครงการ ได้แก่

1.การเพิ่มมูลค่าคาร์บอนไดออกไซด์จากก๊าซปล่อยทิ้งของโรงผลิตไฟฟ้าถ่านหินร่วมกับแหล่งก๊าซไฮโดรเจนทางเลือกเพื่อผลิตเมทานอล 200 ลิตรต่อวัน (เฟส 3)  ,2.ระบบการเพาะเลี้ยงสาหร่ายที่มีศักยภาพในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อการผลิตชีวมวลและผลิตภัณฑ์ร่วมมูลค่าสูง ,3.การศึกษาการปรับปรุงคุณภาพเชื้อเพลิงชีวมวลและประเมินความคุ้มค่าของการใช้งานร่วมกับถ่านหิน  ,4.การพัฒนาและถ่ายทอดการผลิตเจลจากสารสกัดเถ้าถ่านหินในระดับ pilot scale และ5.การผลิตสารดูดซับจากสารสกัดเถ้าถ่านหินในระดับ pilot scale 

สำหรับโครงการความร่วมมือระหว่าง วว. และบีแอลพีซี ทั้ง 5 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการเพิ่มมูลค่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์จากก๊าซปล่อยทิ้งของโรงผลิตไฟฟ้าถ่านหินร่วมกับแหล่งก๊าซไฮโดรเจนทางเลือก เพื่อผลิตเมทานอลระดับ 100 ลิตรต่อวัน (เฟส 3) โดยมีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ในระดับ 55 ตันต่อปี และได้มาซึ่งผลผลิตเมทานอลในระดับ 57 ตันต่อปี อีกทั้งยังเกิดผลเพื่อใช้เป็นแนวทางในการต่อยอดในระดับ Pilot Plant นับเป็นจุดเริ่มต้นของการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ออกสู่สิ่งแวดล้อมและมีการนำมาใช้ประโยชน์อย่างเห็นได้จริง (Carbon capture Utilization and Storage)

,2.ระบบการเพาะเลี้ยงสาหร่ายที่มีศักยภาพในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซต์  เพื่อการผลิตชีวมวล  และผลิตภัณฑ์ร่วมมูลค่าสูง มีวัตถุประสงค์ที่จะคัดเลือกและประเมินศักยภาพสายพันธุ์สาหร่ายที่มีศักยภาพต่อการตรึงคาร์บอนไดออกไซต์ที่เหลือทิ้งจากกระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรม มาใช้พัฒนาวิธีการเลี้ยงสาหร่ายโดยใช้คาร์บอนไดออกไซด์เป็นแหล่งวัตถุดิบหลักและเสริม

,3.การศึกษาการปรับปรุงคุณภาพเชื้อเพลิงชีวมวลและปริมาณความคุ้มค่าของการใช้งานร่วมกับถ่านหิน ทั้งนี้บริษัทมีความต้องการปรับปรุงการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าให้มีความสอดคล้องกับความเป็นอุตสาหกรรมสีเขียวมากขึ้น และสนับสนุนการลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และมลภาวะต่างๆ จากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล โดยนำชีวมวลมาใช้เป็นเชื้อเพลิงร่วมกับถ่านหิน คือ ไม้ยางพาราและชานอ้อย ในการผลิตไฟฟ้าในรูปแบบ Co-firing

,4.การพัฒนาและถ่ายทอดการผลิตเจลจากสารสกัดเถ้าถ่านหินในระดับ pilot scale โดยมีวัตถุประสงค์ดำเนินการศึกษา และศึกษาความเป็นไปได้ในเชิงเศรษฐศาสตร์สำหรับกระบวนการสกัดและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในการขยายการผลิตเจลที่มีการผลิตแบบกึ่งต่อเนื่อง ขนาดกำลังการผลิตเจลไม่น้อยกว่า 800 กิโลกรัมต่อวัน จากเถ้าถ่านหินเหลือทิ้งและอบรมถ่ายทอดกระบวนการผลิต

และ5.การผลิตสารดูดซับจากสารสกัดเถ้าถ่านหิน ในระดับ pilot scale โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการศึกษา และศึกษาความเป็นไปได้ในเชิงเศรษฐศาสตร์สำหรับกระบวนการสกัดและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ในการขยายการผลิตเจลที่มีการผลิตแบบกึ่งต่อเนื่อง ขนาดกำลังการผลิต 300 กรัมของเถ้าต่อชั่วโมง จากเถ้าถ่านหินเหลือทิ้ง และศึกษาการนำกากเหลือทิ้งจากกระบวนการสกัดกลับมาใช้ประโยชน์ เพื่อการส่งเสริมการหมุนเวียนวัสดุเหลือทิ้งอย่างเต็มวงจรได้อย่างมีประสิทธิภาพ