ดาวโจนส์ปิดบวก 114 จุด รับปัจจัยหนุนตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐลด

23 ธ.ค. 2563 | 23:51 น.

ดาวโจนส์ปิดบวก 114.32 จุด ได้ปัจจัยหนุนจากตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐที่ปรับตัวลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งความหวังที่ว่าสหรัฐจะสามารถออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในท้ายที่สุด

ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ธ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐที่ปรับตัวลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งความหวังที่ว่าสหรัฐจะสามารถออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในท้ายที่สุด แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ว่าจะไม่ลงนามในมาตรการดังกล่าวก็ตาม โดยปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนแรงซื้อหุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มธนาคาร
          

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,129.83 จุด เพิ่มขึ้น 114.32 จุด หรือ +0.38% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,690.01 จุด เพิ่มขึ้น 2.75 จุด หรือ +0.07% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,771.11 จุด ลดลง 36.81 จุด หรือ -0.29%
          

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 803,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 885,000 ราย จากระดับ 892,000 รายที่มีการรายงานในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
          

นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากความหวังที่ว่า สหรัฐจะสามารถออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการโควิด-19 ได้ในที่สุด แม้ปธน.ทรัมป์ขู่ว่าจะไม่ลงนามในมาตรการดังกล่าว โดยอ้างว่าต้องการให้เพิ่มจำนวนเงินในเช็คเงินสดที่จะแจกจ่ายให้กับชาวอเมริกันจาก 600 ดอลลาร์ เป็น 2,000 ดอลลาร์ และต้องการให้ตัดงบรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับนี้          

ปัจจัยบวกดังกล่าวได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มสายการบิน และกลุ่มอุตสาหกรรม โดยหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ทะยานขึ้น 3.37% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ และหุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ต่างก็พุ่งขึ้น 2.65% ส่วนหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมนั้น หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ พุ่งขึ้น 1.05% หุ้นโบอิ้ง บวก 0.43%
          

หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นขานรับความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเช่นกัน โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส พุ่งขึ้น 2.84% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 2.8% หุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 2.56% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 2.54% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 2.36%
          

หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นหลังจากราคาน้ำมัน WTI ดีดตัวขึ้นกว่า 2% โดยหุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ พุ่งขึ้น 2.69% หุ้นเอ็กซอน โมบิล เพิ่มขึ้น 1.29% หุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 1.6% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 1.99%
          

หุ้นไฟเซอร์ ปรับตัวขึ้น 1.9% หลังมีรายงานว่า ไฟเซอร์จะจัดส่งวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ให้กับรัฐบาลสหรัฐเพิ่มเติมอีก 100 ล้านโดสภายในเดือนก.ค.ปีหน้า โดยข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้รัฐบาลสหรัฐได้รับวัคซีนจากไฟเซอร์รวมทั้งหมด 200 ล้านโดส
          

อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้น Nvidia ดิ่งลง 2.03% หุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 1.3% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (เอเอ็มดี) ร่วงลง 1.73% หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ ลดลง 0.7%
          

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ดิ่งลง 11.0% สู่ระดับ 841,000 ยูนิตในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 995,000 ยูนิต
          

ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนพ.ย. หลังจากพุ่งขึ้น 1.8% ในเดือนต.ค.
          

ขณะที่ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวสู่ระดับ 80.7 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 76.9 ในเดือนพ.ย. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 81.3