เปิดพื้นที่เสี่ยงระวังอันตราย พายุ “กรอวาญ”  กระทบ 23-24 ธ.ค.

ตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 8 ลงวันที่ 21 ธันวาคม 2563 แจ้งว่า พายุโซนร้อน “กรอวาญ” (ระดับ 3) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน (ระดับ 2) แล้ว คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณอ่าวไทยในวันที่ 23 - 24 ธันวาคม 25๖๓ และเคลื่อนตัวผ่านประเทศไทยลงสู่ทะเลอันดามันต่อไป ซึ่งจะทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ประกอบกับในช่วงดังกล่าวมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในบริเวณภาคใต้ได้

นายสำเริง แสงภู่วงค์  รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ  เลขานุการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ประเมินสถานการณ์น้ำจากฝนคาดการณ์ (One Map) พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ ในช่วงวันที่ 23- 25 ธันวาคม 2563 ดังนี้ 1. เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม บริเวณจังหวัดชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา 2. เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะแม่น้ำที่ปัจจุบันมีระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งเล็กน้อย รวมทั้งมีน้ำท่วมขังอยู่  บริเวณแม่น้ำตาปี อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี คลองท่าดี อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช  แม่น้ำตรัง อำเภอห้วยยอด คลองชี อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง คลองอู่ตะเภา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา แม่น้ำปัตตานี อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา และอำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี และแม่น้ำโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดไทม์ไลน์เส้นทาง "พายุกรอวาญ" ภาคใต้รับมือฝน 23 - 24 ธ.ค.นี้

ทั้งนี้ กอนช. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำ ดังนี้  ติดตามเฝ้าระวังสภาพอากาศ และ สถานการณ์น้ำในพื้นที่เสี่ยง อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำและแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงทราบล่วงหน้าเพื่อเตรียมพร้อมในการอพยพและเคลื่อนย้ายสิ่งของได้อย่างทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์น้ำหลาก  ปรับแผนบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ พร้อมพิจารณาความเหมาะสมในการระบายน้ำในลำน้ำ/แม่น้ำ ส่วนเขื่อนระบายน้ำและประตูระบายน้ำ ให้พิจารณาพร่องน้ำ เพื่อรองรับน้ำหลาก

รวมทั้งเตรียมพื้นที่ลุ่มต่ำเพื่อเป็นแก้มลิงในการหน่วงน้ำและรองรับน้ำหลากให้พิจารณาบริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก ที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ95 โดยเฉพาะ อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส และอ่างเก็บน้ำคลองดินแดง จังหวัดนครศรีธรรมราช รวมทั้งอ่างเก็บน้ำคลองหาดส้มแป้น จังหวัดระนอง ซึ่งอาจต้องมีการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดน้ำหลากเอ่อล้นตลิ่งบริเวณที่ลุ่มต่ำและด้านท้ายน้ำ

พร้อมกับจัดเจ้าหน้าที่ในการติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ พร้อมด้วยเครื่องจักรเครื่องมือ รวมถึงเตรียมความพร้อมระบบสื่อสารสำรอง เพื่อบูรณาการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน ตลอดจนกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำให้สามารถรองรับน้ำฝน และเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ