การเมืองเก่าให้"บทเรียน"คณะก้าวหน้า

21 ธ.ค. 2563 | 11:49 น.

ผู้สมัครนายก อบจ.คณะก้าวหน้าแพ้ยกชุด 41 จังหวัด "ธนาธร"แถลงขอโทษ บอกยังทำงานหนักไม่พอ เปิดผลคะแนนโดนแชมป์ทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่น กระแส"การเมืองใหม่"ทานฐานเสียงจัดตั้งไม่ไหว

ผู้สมัครนายก อบจ. คณะก้าวหน้า แพ้ยกชุด 41 จังหวัด "ธนาธร"แถลงขอโทษ บอกยังทำงานหนักไม่พอ เปิดผลคะแนนโดนแชมป์ทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่น กระแส"การเมืองใหม่"ทานฐานเสียงจัดตั้งตระกูลการเมืองท้องถิ่นไม่ไหว 

 

การเลือกตั้งนายก อบจ. และสมาชิกสภา อบจ.ทั่วประเทศเมื่อ 20 ธันวาคม 2563 ที่คณะก้าวหน้าของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ หมายมั่นปั้นมือจะปักธงการเมืองท้องถิ่นให้ได้ โดยจัดตัวบุคคลลงสมัครในนาม"คณะก้าวหน้า"ใน 41 จังหวัด และทุ่มเทเดินสายหาเสียงแม้จะเจอแรงเสียดทานอย่างหนัก 
    

ผลการนับคะแนนการเลือกตั้งนายก อบจ.เบื้องต้นที่ออกมา ปรากฎว่าผู้สมัครทีม"คณะก้าวหน้า"ไม่สามารถคว้าชัยได้แม้แต่จังหวัดเดียว มีเพียงเก้าอี้ส.อบจ.เท่านั้นที่เบียดเข้ามาได้ 55 คน กระจายใน 18 จังหวัด 
    

เมื่อเวลา 15.15 น.วันที่ 21 ธันวาคม 2563 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า แถลงสรุปผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ผ่านทางเฟซบุ๊กไลฟ์ ยอมรับว่าไม่สามารถช่วงชิงตำแหน่งนายก อบจ.มาได้แม้แต่จังหวัดเดียว จากการทำงานที่ยังไม่หนักพอ และขอโทษประชาชนที่สนับสนุน อย่างไรก็ตาม คณะก้าวหน้าได้ได้สมาชิกสภาจังหวัด (สจ.) จำนวน 55 คนจาก 18 จังหวัด และได้มีส่วนร่วมผลักดันให้สังคมได้รับรู้ ถึงความสำคัญถึงการทำหน้าที่ของท้องถิ่น 
  การเมืองเก่าให้"บทเรียน"คณะก้าวหน้า    

ทั้งนี้ ในการลงพื้นที่หาเสียงของคณะก้าวหน้าชูเป้าหมายเพื่อสร้างการเมืองใหม่ รณรงค์"เปลี่ยนประเทศไทย"ผ่านการเลือกตั้งนายก อบจ.  รวมทั้งเป็นที่รับรู้ทั่วกันว่า คณะก้าวหน้ามีจุดยืนในทิศทางเดียวกับการเคลื่อนไหวของคณะราษฎร ซึ่งในการนำทีมลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียงครั้งนี้ต้องเผชิญแรงเสียดทานจากกลุ่มผู้มีจุดยืนตรงข้ามอย่างรุนแรง การเลือกตั้งนายก อบจ.ครั้งนี้จึงเป็นที่จับตา
    

คะแนนผู้สมัครชิงนายก อบจ.ในนามคณะก้าวหน้าทั้ง 41 คน เมื่อเทียบกับผู้ชนะในแต่ละจังหวัด มีดังนี้ 
  

 ภาคเหนือ
1.ชัยประพันธ์ สิงห์ชัย (พะเยา) 68,964 คะแนน อันดับที่ 4    (อัครา พรหมเผ่า 143,264 คะแนน )       
2.ณชพล พลอาสา (พิษณุโลก) 36,102 คะแนน  อันดับ3       (มนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒน์ 181,130 คะแนน)     
3.สุภวัฒน์ ศุภศิริ   (แพร่)           43,944 คะแนน    อันดับ2      (อนุวัชร วงศ์วรรณ 130,876คะแนน) 
4.ปัณณวัฒน์ นาคมูล (อุตรดิตถ์)35,499 คะแนน  อันดับ2      (ชัยศิริ ศุภรักษ์จินดา108,123 คะแนน)
5.สิทธิชัย ต๊ะอาจ (เพชรบูรณ์)     36,680  คะแนน  อันดับ3       (อัครเดช ทองใจสด 279,355คะแนน)
6.มาโนช วัฒนประสิทธิ์ (พิจิตร)  10,652 คะแนน  อันดับ3  (พ.ต.อ.กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์136,670คะแนน) 
7.อภิสิทธิ์ พรมฤทธิ์ (กำแพงเพชร)41,137 คะแนน  อันดับ3     (สุนทร รัตนากร 194,924 คะแนน)
8.คริษฐ์ ปานเนียม  (ตาก)             41,656  คะแนน  อันดับ2     (ณัฐวุฒิ ทวีเกื้อกูลกิจ 101,868 คะแนน )

    ภาคใต้
9.สุทธิโชค ทองชุมนุม (พังงา)           19,665   คะแนน   อันดับ3    (ธราธิป ทองเจิม 51,750)
10.พงษ์ศักดิ์ โพธิครูประเสริฐ(สุราษฎร์ธานี) 11,143 คะแนน  อันดับ5  (พงษ์ศักดิ์ จำแก้ว 224,746คะแนน) 
11.สรวุฒิ ปาลิมาพันธ์ (ภูเก็ต)           15,375 คะแนน   อันดับ3   (เรวัต อารีรอบ 64,600คะแนน)
12.อิสระ หัสดินทร์ (นครศรีธรรมราช) 9,557 คะแนน      อันดับ6    (กนกพร เดชเดโช 85,745คะแนน)   
13.คอยรูซามัน มะ (นราธิวาส)          21,841 คะแนน      อันดับ3   (กูเซ็ง ยาวอหะซัน188,736 คะแนน)

    ภาคตะวันออก
14.ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ (ฉะเชิงเทรา)  91,019 คะแนน       อันดับ2     (กิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ 155,014คะแนน)    
15.สว่างจิตต์ เลาหะโรจน์พันธ์ (ระยอง) 61,583 คะแนน    อันดับ2    (ปิยะ ปิตุเตชะ158,413 คะแนน)
16.กฤษณ์กมล แพงศรี (ปราจีนบุรี)      56,623  คะแนน      อันดับ2   (สุนทร วิลาวัลย์ 103,617 คะแนน) 
17.พลอยลภัสร์ สิงห์โตทอง (ชลบุรี)   168,997   คะแนน       อันดับ2   (วิทยา คุณปลื้ม 337,107 คะแนน)

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
18.สาธิต ปิติวรา (นครราชสีมา)   255,482  คะแนน     อันดับ 2    (ยลดา หวังศุภกิจโกศล 617,351คะแนน) 
19.ภูมิพันธ์ บุญมาตุ่น (บึงกาฬ)      25,637  คะแนน      อันดับ2      (แว่นฟ้า ทองศรี 76,706 คะแนน) 
20,สุพจน์ สุอริยพงษ์ (มุกดาหาร)        -                              -       (พ.ต.ท.จิตต์​ ศรีโยหะ ​มุกดาธนพงศ์ 57,494 คะแนน)
21.สถาพร ว่องสันธนพงษ์ (ร้อยเอ็ด)76,124  คะแนน      อันดับ2          (เอกภาพ พลซื่อ 182,097 คะแนน)
22.กฤศภณ หล้าวงศา (หนองคาย)  43,117  คะแนน       อันดับ3              (ยุทธนา ศรีตะบุตร 76,318 คะแนน)
23.สมเกียรติ เชษฐสุมน (หนองบัวลำภู)  36,752 คะแนน  อันดับ2             (วุฒิพงษ์ ศิริสถิตย์ 95,899 คะแนน)
24.เชษฐา ไชยสัตย์ (อุบลราชธานี)    63,523  คะแนน       อันดับ4             (กานต์ กัลป์ตินันท์ 169,633 คะแนน)
25.มานพ แสงดำ  (สุรินทร์)               57,808  คะแนน        อันดับ 2            (พรชัย มุ่งเจริญพร 334,632 คะแนน)
26.ณรงค์เดช อุฬารกุล(สกลนคร)     91,466 คะแนน         อันดับ3            (ชูพงศ์ คำจวง 136,349 คะแนน)
27.ณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ (นครพนม)49,983 คะแนน        อันดับ3            (ศุภพานี โพธิ์สุ 161,962คะแนน) 
28.ชัยศรี กีฬา     (อำนาจเจริญ)       15,770  คะแนน         อันดับ 3            (วันเพ็ญ ตั้งสกุล 91,742คะแนน)
29.ฐานวัฒน์ ธนาธัญญพิชญ์(อุดรธานี)185,801 คะแนน   อันดับ2             (วิเชียร ขาวขำ 325,933 คะแนน)

    ภาคกลาง
30.ชัชวาล นันทะสาร  (นครปฐม)           -         
31.ศรัญ ฤกษ์อัตการ (นครสวรรค์)  97,167  คะแนน       อันดับ 2     (พล.ต.อ.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ 226,180 คะแนน) 
32.ไพบูลย์ กิจวรวุฒิ (นนทบุรี)       137,222 คะแนน          อันดับ2     (พ.ต.อ.ธงชัย เย็นประเสริฐ 193,992 คะแนน)
33.วัสพงศ์ วิทูรเมธา  (พระนครศรีอยุธยา)    -                                            
34.ฤทธิ์ พัวพันธ์  (ลพบุรี)                 27,798  คะแนน            อันดับ3    (อรพิน จิระพันธุ์วาณิช205,320 คะแนน)
35.อานุภาพ ลิขิตอำนวยชัย(สมุทรสงคราม)13,087 คะแนน อันดับ4    (สุกานดา ปานะสุทธะ 23,894คะแนน)
36.สุรชัย บุญลือ  ( สิงห์บุรี)                  8,756  คะแนน          อันดับ 4        (ศุภวัฒน์ เทียนถาวร 46,738 คะแนน)
37.อวยชัย จาตุรพันธ์ (สมุทรสาคร)   26,463 คะแนน           อันดับ2       (อุดม ไกรวัตนุสสรณ์ 131,537 คะแนน)
38.โยธิน เปาอินทร์  (อ่างทอง)            45,637 คะแนน            อันดับ2     (สุรเชษ นิ่มกุล 81,734 คะแนน)
39.วิทูลย์ แก้วสุวรรณ (สระบุรี)          42,785 คะแนน           อันดับ 2     (สัญญา บุญ-หลง 155,191 คะแนน)
40.ภรมน นรการกุมพล (ราชบุรี)         74,929  คะแนน          อันดับ 2      (วิวัฒน์ นิติกาญจนา 241,952 คะแนน)
41.ธัชชัย เมตโต (สมุทรปราการ)         74,531  คะแนน          อันดับ 3    (นันทิดา แก้วบัวสาย 341,504 คะแนน) 
    
  

ในหลายจังหวัดผู้สมัครคณะก้าวหน้ามาเป็นอันดับ 2 แต่คะแนนที่ได้เมื่อเทียบกับผู้ชนะส่วนใหญ่ถูกทิ้งห่างเกือบเท่าตัว ยิ่งไปลงแข่งในสนามของตระกูลการเมืองท้องถิ่นที่ปักหลักในพื้นที่มายาวนาน คะแนนที่ได้ยิ่งห่างกันหลายช่วงตัว เช่นที่สมุทรสาครที่อวยชัย จาตุรพันธ์ มาเป็นที่ 2 แต่ได้คะแนนเพียง 26,463 คะแนน   เทียบกับ      อุดม ไกรวัตนุสสรณ์ ผู้ชนะที่กวาดมาได้ถึง 131,537 คะแนน  หรือที่สมุทรปราการ เขตปริมณฑลต่อเนื่องกับกรุงเทพฯ ผู้สมัครคณะก้าวหน้าได้มาที่ 70,000 คะแนนเศษ ขณะที่นันทิดา แก้วบัวสาย ได้มาเกิน 300,000 เสียง จากฐานเสียงของตระกูล"อัศวเหม"
    

ส่วนสนามที่มีผู้สมัครลงชิงชัยกันหลายคน เช่นที่สมุทรสงคราม ที่แชมป์คือ สุกานดา ปานะสุทธะ ชนะด้วยคะแนน  23,894 คะแนน ขณะที่คะแนนของ อานุภาพ ลิขิตอำนวยชัย จากคณะก้าวหน้า ทำได้ 13,087 คะแนน ห่างจากแชมป์เพียงประมาณหมื่นคะแนน แต่คะแนนของอานุภาพก็ตามมาเป็นอันดับที่ 4  เนื่องจากคะแนนผู้สมัครไล่กันมาโดยไม่ทิ้งห่าง  
    

ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. ดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า การเมืองท้องถิ่นซึ่งเป็นสนามเล็ก ภายใต้ระบบเลือกตั้งแบบเดิม คือ  ใครชนะในเขตเลือกตั้งนั้นก็ได้เก้าอี้ไปเลย ต่างจากระบบเลือกตั้งส.ส.ตามรัฐธรรมนูญใหม่ที่ใช้ระบบสัดส่วนแบบผสม ที่นำคะแนนจากทุกเขตมาคำนวนหาสัดส่วนจำนวนส.ส.ที่แต่ละพรรคพึงมี ที่เป็นตัวช่วยให้ส.ส.อนาคตใหม่พาเหรดเข้าสภาอย่างถล่มทะลายในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา  
    

รวมถึงความผูกพันระหว่างผู้สมัครกับผู้ใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งมีผลต่อการตัดสินใจลงคะแนนสูง ทำให้กลุ่มการเมืองเดิมหรือตระกูลการเมืองที่ปักหลักในพื้นที่มานานมีโอกาสคว้าชัยมากกว่าหน้าใหม่ และเหนียวแน่นกว่าการชู"นโยบาย"หรือสร้างกระแส ที่ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งรู้สึกว่าห่างไกลจากชีวิตประจำวันของตน
    

เป็นการเมืองเก่าที่ให้"บทเรียน" ด้วยการยัดเยียดความปราชัยให้ผู้สมัครชิงเก้าอี้นายก อบจ.ทีม"คณะก้าวหน้า"ยกชุด