"สุพัฒนพงษ์" ลุยเพิ่มโอกาสประเทศไทย ให้น่าลงทุนที่สุด

17 ธ.ค. 2563 | 14:08 น.

รองนายกฯสุพัฒนพงษ์ ปาฐกถาพิเศษ ฉายภาพประเทศไทยนับจากนี้ ชี้มีโอกาสโครงสร้างพื้นฐานมากมาย ลั่นนำติดท็อปเท็นประเทศน่าลงทุน

วันที่ 17 ธันวาคม 2563 มีการจัดงาน Dinner Talk : Restart Thailand 2021…ขับเคลื่อนประเทศไทย  ที่พารากอนฮอลล์ สยามพารากอน ซึ่งจัดโดยหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ และกรุงเทพธุรกิจ 

 

โดย นายฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า  ประเทศไทยต้องเผชิญความท้าทายหลายด้าน เทคโนโลยีที่ก้าวกระโดด ดิจิทัลดิสรับชั่นที่มีหลายองค์กรก้าวทัน แต่อีกหลายธุรกิจ กว่า 80% ยังตามไม่ทัน รวมทั้งปัญหาการส่งออกจากสงครามการค้าจีน สหรัฐ แม้โจ ไบเดน จะได้เป็นประธานาธิบดี แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างไร

"สุพัฒนพงษ์" ลุยเพิ่มโอกาสประเทศไทย ให้น่าลงทุนที่สุด

 

นายฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

 

ด้านการลงทุน แม้รัฐจะเดินหน้าเต็มสูบ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้ง EEC แต่ตัวเลขการลงทุนยังไม่กระเตื้องตามเป้าหมาย และยังมีผลกระทบกับโควิด19 ที่มีผลกระทบกับคนทั่วโลก การท่องเที่ยวการบิน ต้องหยุดชะงัก ซึ่งรัฐบาลเดินหน้าโครงการมาตรการต่างๆ เราเที่ยวด้วย ช้อปดีมีคืน คนละครึ่ง ฯ ก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีแต่ในระยะยาวสังคมไทยจะเดินไปข้างอย่างไรนั้น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"สุพัฒนพงษ์" ชี้นายกสั่งหาแนวทางนำไทยกลับสู่กลุ่มผู้นำอาเซียน

 "สุพัฒนพงษ์" เร่ง "ปทต."ฉีดงบ 9 แสนล้านกระตุ้นเศรษฐกิจ

ส่องประวัติ "สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์" มีรายชื่อโผล่นั่งเก้าอี้ รมต.พลังงาน

  

จากนั้นเป็นการปาฐกฐาพิเศษของ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน  เล่าถึงทิศทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 64 ไปจนถึง 65  โดยเล่าย้อนไปถึงสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ในปี 2563 ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนทั้งโลก มีผลกระทบมากมาย ซึ่งประเทศไทยยังพึ่งพิงโครงสร้างการท่องเที่ยวและส่งออกเป็นปัจจัยรายได้หลัก 

 

ที่ผ่านมารัฐบาลใช้การเยียวยาจำนวนมาก รวมแล้ว 4 แสนล้านบาทเพื่อเสริมสภาพคล่อง รวมทั้งเรื่องซอฟท์โลนน้อย รวมแล้ว 8 แสนล้านบาท  ทำให้ดัชนี้ชี้วัดดีขึ้นตลอดระยะเวลามาเรื่อยๆ 7 เดือนติดต่อกันดีขึ้นตามลำดับแม้จะมีกาชุมนุมของน้องๆก็ตาม

 

"แต่เพราะเรามีความมั่นใจในการบริโภค เชื่อมั่นในเศรษฐกิจ แต่ทั้งหมดไม่ได้เกิดจากรัฐบาล แต่เกิดจากความร่วมมือของทุกคน ขอให้จำวันที่เราแย่ที่สุดจนถึงวันนี้ให้ได้"

 

รองนายกฯ กล่าวอีกว่า รัฐบาลเล็งเห็นมาตรการทั้งด้านแรงงาน เราเที่ยวด้วยกัน ช้อปดีมีคืน คนละครึ่ง กำลังใจ ทุกโครงการที่เกิดขึ้นถูกออกแบบให้รัฐร่วมกับประชาชนในการเพิ่มปริมาณกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ เป็นความร่วมมือของรัฐและประชาชน เพราะวันนี้ยังไม่ได้เปิดประเทศอย่างสมบูรณ์  แต่ทั้งนี้ตัวเลขหลายตัวเลขชี้ว่าไปได้  ท่ามกลางหลายร้อยประเทศที่ยังแก้ไขการระบาด ใส่เงินเข้าไปในระบบจำนวนมากแต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้

 

นายสุพัฒนพงษ์ เล่าให้ถึงภารกิจที่รัฐบาลและรัฐบาลจะต้องทำร่วมกันยังไม่หมด เพราะโลกหลังโควิดยังมีผลกระทบต่อประเทศไทย ที่จะต้องปรับปรุงปรับตัวเอง ต้องชื่นชมว่าเป็นเพราะความต่อเนื่องของรัฐบาลที่ทำกันมา 6 ปี โดยการนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานที่จัดให้พวกเราปรับตัวได้พร้อมมาก เราอาจจะยังไม่รู้สึก เพราะยังไม่เห็นความชัดเจน  แต่ลองนึกถึงกรุงเทพที่มีรถไฟฟ้า 14 สายในปี 4-5 ปีข้างหน้า ซึ่งกำลังจะมีไปเรื่อยๆ ทำให้บางปุ ฉะเชิงเทรา ปทุมธานี นนทบุรี จะล้อมกรุงเทพ กรุงเทพจะพร้อมเป็นสำนักงานของภูมิภาค

 

รวมทั้งโครงการ อีอีซีก็มีความพร้อมที่จะเกิดในโครงการต่างๆ ที่ทำให้เราจะเปลี่ยนประเทศในการเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐาน  โดยเฉพาะอีอีซี ที่มีการรองรับการลงทุนใหม่ที่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นระบบดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งจะเกิดธุรกิจใหม่ๆ

 

"เป็นเรื่องใหม่ของประเทศ จะถูกยกระดับเป็นปฏิบัติการเชิงรุกในปี 2565 ให้เกิดการลงทุนในปี 65 อย่างชัดเจน  เรายอมไม่ได้ที่จะยอมให้ประเทศไทยกลับมาเหมือนเดิมในปี 62 เราต้องติดลบน้อยกว่านี้ ในเมื่อเรามีสิ่งอำนวยความสะดวกนับจากปีนี้เป็นต้นไป"

 

จากนั้นรองนายกฯ กล่าวถึง ซีอีโอบริษัทต่างๆที่ร่วมในงานว่า ซีอีโอต้องใช้โอกาสในการดึงดูดการลงทุน ปีหน้าเราจะปฏิบัติเชิงรุก ร่วมกับบีโอไอ อีอีซี จะเริ่มคุยกับหอการค้าระหว่างประเทศ สถานทูตต่างๆ เพราะสิ่งอำนวยความสะดวกเราครบ เรามีความพร้อมหลายด้าน

"สุพัฒนพงษ์" ลุยเพิ่มโอกาสประเทศไทย ให้น่าลงทุนที่สุด

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

 

"และมีการปรับปรุงการอำนวยวามสะดวกการลงทุน 10 ข้อ ที่รัฐบาลตั้งใจยกระดับดัชนีในการอำนวยความสะดวก ตอนนี้เราอยู่ที่ 21 ของโลกในการอำนวยความสะดวก แต่เราอยู่ในอันดับที่ 10 ของโลกเป็นประเทศที่น่าลงทุนมากที่สุด ของเราช่วยกัน"

รองนายกฯ กล่าวด้วยว่า ปีหน้า 2564 จะเป็นเป็นปีของการดึงดูด ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง สร้างอุตสาหกรรมใหม่  และเราจะยุติการพึ่งพิงเพียงเศรษฐกิจจาก 2-3 เรื่อง เราจะกระจายศรษฐกิจ จะปรับปรุงกฎกติการการทำงานให้สะดวก โปร่งใสมากขึ้น รวมทั้งยังฉายภาพถึงการทำประเทศไทยให้พร้อมก้าวไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้าให้ได้ เพราะอีวี เรื่องเดียว ทำให้เกิดอีกหลายเรื่อง

 

"ผมคิดว่าเป็นโอกาสของประเทศไทยที่มีระบบเชื่อมโยงพลังงาน สายส่ง ถ้าอยากมีพลังงานสะอาดต้องมีพลังงานชีวมวล เราจะเป็นศูนย์กลางของเรื่องเหล่านี้ เพราะเป็นจุดแข็งในการสร้างการอำนวยความสะดวกที่มีการลงทุน ในอนาคตใครจะมาลงทุนในประเทศไทย"

 

รองนายกฯ กล่าวด้วยว่า นี่คือการเกิดขึ้นในปี 64 ที่ดึงดูดเชิญชวน และต้องการเอกชนไทยจำเป็นที่จะต้องเชื่อมั่นในสิ่งเหล่านี้ของประเทศเพื่อดึงดูดนักลงทุนเพื่อเป็นเจ้าบ้านที่ดี และจะเริ่มลงทุนในปี 65

 

"ผมอยากฉายให้เห็นภาพว่าถ้าเราทำอย่างนี้ได้ ปี 65 เราจะกลับดีกว่านี้เราจะไม่กลับมาแล้วเท่าดิม เราจะแข็งแรงกว่าเดิมและมั่นคงมาก แต่ปี 64 ยังจะต้องช่วยกันประคับประคองต่อไปแม้จะมีวัคซีนที่เป็นข่าวดีก็ตาม  ปีหน้าจะมีทีมปฏิบัติการเชิงรุกเชิญมาร่วมไทยสร้างชาติกัน แสวงหาในสิ่งที่เราสร้างโอกาสกัน เป็นโอกาสที่ปี 65 จะลุกขึ้นมาลุกไว แล้ววิ่งเลย เพราะถ้าเราช้าคนอื่นก็คว้าไป เพราะทิศทางมันมาทางนี้"

 

ในตอนท้ายนายสุพัฒนพงษ์ กล่าวย้ำว่า เรื่องการลดความเหลื่อมล้ำ รัฐบาลจะสร้างโอกาสให้กับผู้ด้อยโอกาส  เราแจกเงินอย่างเดียวทำไม่ได้ แต่เราจะสร้างโอกาสให้คนเหล่านี้มีโอกาสที่จะแสวงโอกาสหาจุดแข็งของตัวเอง  แต่ทั้งนี้หากเกิดการระบาดครั้งที่สองไม่ได้เลย แล้วจำเป็นต้องล็อคดาวน์มีผลกระทบต่อประเทศ มีผลต่อความรู้สึกของเราที่จะต้องช่วยกันปกป้องดูแลให้ดี ต้องรักษาคุณภาพตรงนี้ให้ได้

 

"สุพัฒนพงษ์" ลุยเพิ่มโอกาสประเทศไทย ให้น่าลงทุนที่สุด

"สุพัฒนพงษ์" ลุยเพิ่มโอกาสประเทศไทย ให้น่าลงทุนที่สุด

"สุพัฒนพงษ์" ลุยเพิ่มโอกาสประเทศไทย ให้น่าลงทุนที่สุด

ภาพ..บรรยากาศภาพงาน Dinner Talk : Restart Thailand 2021…ขับเคลื่อนประเทศไทย  ที่พารากอนฮอลล์ สยามพารากอน ซึ่งจัดโดยหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ และกรุงเทพธุรกิจ