กทม.เปิดตัวรถไฟฟ้า 2 สาย นั่งฟรีถึง 15 ม.ค.64

16 ธ.ค. 2563 | 03:45 น.

กทม.เปิดตัวสายสีเขียวครบทุกสถานี วิ่งยาว นั่งยาวเชื่อม 3 จังหวัด บริการฟรีถึงเดือน 15 ม.ค.นี้ คาดรองรับผู้โดยสารทั้งระบบ 1.5 ล้าน เที่ยวคนต่อวัน ด้านสายสีทองต่อเรือข้ามฟาก-เรือด่วน คาดรองรับผู้โดยสาร 4.2 หมื่น เที่ยวคนต่อวัน

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการต้อนรับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเป็นประธานในพิธีเปิดให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ช่วงหมอชิต - สะพานใหม่ – คูคต) จำนวน 7 สถานี ว่า ที่ผ่านมารัฐบาลโดยคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ได้มีมติเห็นชอบในหลักการให้กรุงเทพมหานครเป็นผู้เดินรถส่วนต่อขยายทั้งช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต - สะพานใหม่ – คูคต ทำให้ในวันนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวประสบความสำเร็จ เปิดให้บริการครบทุกสถานี ตลอดเส้นทาง ทั้ง 59 สถานี รวมระยะทางกว่า 68 กิโลเมตร มีรถไฟฟ้าให้บริการมากที่สุด ถึง 98 ขบวน 392 ตู้ และมีการจัดรูปแบบการเดินรถให้มีประสิทธิภาพสูงสุด สามารถรองรับผู้โดยสารทั้งระบบได้สูงสุด มากกว่า 1,500,000 เที่ยวคนต่อวัน ช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด ตลอดจนส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวทั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑล และก่อให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยรอบเส้นทางรถไฟฟ้า รองรับการพัฒนาเมืองอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในอนาคต

 

ขณะเดียวกันโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่จะเปิดให้บริการเพิ่มในครั้งนี้ เป็นส่วนสุดท้ายของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว จำนวน 7 สถานี ประกอบด้วย สถานีพหลโยธิน59 (N18) สถานีสายหยุด(N19) สถานีสะพานใหม่(N20) สถานีโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช(N21) สถานีพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ(N22) สถานีแยกคปอ.(N23) และสถานีคูคต (N24) คาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารจะเพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันจำนวนผู้โดยสารในส่วนต่อขยายช่วงสถานีห้าแยกลาดพร้าว(N9) - สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ (N17) เฉลี่ยในวันทำการที่ 132,200 เที่ยว/คนต่อวัน จะเพิ่มขึ้นเป็น 252,200 เที่ยว/คนต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นอีกเกือบเท่าตัว เป็นผลจาก ในเส้นทางนี้มี สถานศึกษา โรงพยาบาล สถานที่ราชการสำคัญตั้งอยู่จำนวนมาก อีกทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯด้านเหนือต่อเนื่องกับจังหวัดปทุมธานี ทั้งด้านถนนพหลโยธินและถนนลำลูกกาเป็นย่านที่อยู่อาศัยหนาแน่น และประชาชนส่วนใหญ่ต้องเดินทางเข้ามาทำงาน หรือมาเรียนในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากรถไฟฟ้าสายนี้เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีอาคารจอดแล้วจร เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า จำนวน 2 แห่ง ณ สถานีแยกคปอ. และสถานีปลายทางคูคต รองรับจำนวนรถได้รวม 1,755 คัน ซึ่งจะทำให้ประชาชนที่เดินทางได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยเปิดให้บริการฟรีถึง 15 ม.ค.64

กทม.เปิดตัวรถไฟฟ้า 2 สาย  นั่งฟรีถึง 15 ม.ค.64

พล.ต.อ.อัศวิน. กล่าวต่อว่า ได้ศึกษาความเหมาะสมโครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง โดยมีรูปแบบการลงทุนที่ไม่ใช้งบประมาณของทางราชการ โดยกรุงเทพธนาคมได้ให้สิทธิพื้นที่โฆษณาบนสถานีรถไฟฟ้าแก่เอกชน เป็นระยะเวลา 30 ปี และนำรายได้ดังกล่าวมาลงทุนก่อสร้าง โดยทรัพย์สินในโครงการทั้งหมดเป็นของกรุงเทพมหานครตั้งแต่เริ่มให้บริการ ซึ่งถือเป็นความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานร่วมกันระหว่างรัฐและเอกชน เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน ลดปัญหาการจราจรแออัด เพิ่มทางเลือกในการเดินทางที่สะดวกสบาย สร้างแหล่งงาน แหล่งท่องเที่ยว และเสริมสร้างเศรษฐกิจในพื้นที่

 

ทั้งนี้รถไฟฟ้าสายสีทองแม้จะมีระยะทางสั้นเพียง 1.8 กิโลเมตร แต่ถือเป็นระบบรองที่มีประสิทธิภาพ เพราะเชื่อมโยงการเดินทางของประชาชนในทุกโหมด ครบทั้งล้อ ราง เรือ โดยเชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีลมที่สถานีกรุงธนบุรีและในอนาคตจะเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) ที่สถานีประชาธิปก และสายสีแดง (หัวลำโพง-มหาชัย) ที่สถานีคลองสาน นอกจากนี้ยังเชื่อมการเดินทางทางน้ำ สำหรับประชาชนที่จะใช้บริการเรือข้ามฟากและ เรือด่วนเจ้าพระยาที่ท่าเรือคลองสาน และท่าเรือไอคอนสยาม โดยจะให้บริการฟรี 1 เดือน ระหว่างวันที่ 16 ธ.ค.63 - 15 ม.ค.64 เริ่มเก็บค่าโดยสารคงที่ 15 บาทตลอดสาย ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.64 เป็นต้นไป สำหรับรูปแบบรถไฟฟ้าสายสีทอง เป็นระบบนำทางอัตโนมัติ Automated People Mover (APM) ซึ่งมีลักษณะพิเศษคือเป็นรถไฟฟ้าที่ใช้ล้อยาง มีขนาดเล็กแต่มีประสิทธิภาพในการขนส่งผู้โดยสารในพื้นที่เชื่อมต่อเข้าสู่ระบบหลัก โครงสร้างขนาดเล็กทำให้ก่อสร้างได้เร็วใช้เวลาประมาณ 2 ปี ไม่ต้องมีการเวนคืนที่ดิน มีช่วงรัศมีทางโค้งที่แคบที่สุดบริเวณแยกเป็บซี่ เพียง 32.70 เมตรเท่านั้น และแม้แต่พื้นที่ศูนย์ซ่อมบำรุงก็สามารถก่อสร้างได้บนเขตทางสาธารณะ โดยที่ระบบยังคงความสะดวกสบาย ความรวดเร็วในการเดินทางและความปลอดภัยที่เป็นมาตรฐานสากล ทั้งในตัวรถและภายในสถานี

กทม.เปิดตัวรถไฟฟ้า 2 สาย  นั่งฟรีถึง 15 ม.ค.64

สำหรับแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีทอง เริ่มต้นจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสกรุงธนบุรี ไปตามแนวถนนเจริญนครผ่านแยกคลองสาน ไปสิ้นสุดที่ถนนสมเด็จเจ้าพระยาที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลตากสิน มี 3 สถานี ได้แก่ สถานีกรุงธนบุรี สถานีเจริญนคร และสถานีคลองสาน ให้บริการด้วยรถไฟฟ้ารุ่น Bombardier Innovia APM 300 จำนวน 3 ขบวน ขบวนละ 2 ตู้ ความจุผู้โดยสาร 138 คน/ตู้ มีที่จอดรถวีลแชร์ ตู้ละ1 คัน ตู้รถไฟฟ้ามีความกว้าง 2.89 เมตร ความยาว 12.75 เมตร ความสูงของรถ 3.5 เมตร สามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดที่ 80 กม./ชม. คาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารอยู่ที่ประมาณ 42,000 เที่ยว-คนต่อวัน มีความถี่ในช่วงเวลาเร่งด่วน 5-6 นาที และ เปิดให้บริการ 06.00-24.00 น.

 

อย่างไรก็ตามรถไฟฟ้าสายสีทอง เนื่องจากเป็นรถไฟฟ้าที่ไม่มีคนขับประชาชนอาจจะยังไม่คุ้นชิน ช่วงแรกที่เปิดให้บริการ ผู้เดินรถจะจัดเจ้าหน้าที่ขึ้นประจำรถไปพร้อมกับผู้โดยสาร ซึ่งในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมาได้มีการทดสอบระบบจนมีความมั่นใจในความปลอดภัย พร้อมทั้งได้กำชับเรื่องการให้ความรู้แก่ผู้โดยสารเกี่ยวกับการปฏิบัติต่างๆ ภายในตัวรถเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับระบบ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบดูแลผ่านกล้องวงจรปิดและสื่อสารจากศูนย์ควบคุมได้ตลอดเวลาหากเกิดเหตุฉุกเฉิน สำหรับการปรับปรุงและคืนผิวถนน ขณะนี้ได้คืนผิวถนนกรุงธนบุรีเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ถนนสมเด็จเจ้าพระยาจะคืนผิวถนนครบทั้งหมดในวันที่ 22 ธ.ค.63 ส่วนถนนเจริญนครได้ประสานกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการประปานครหลวง (กปน.) ที่อยู่ระหว่างขุดวางท่อใต้ดิน โดยได้รับแจ้งว่า จะทยอยคืนผิวถนนให้ตั้งแต่เดือนม.ค.64 ไปจนถึงเสร็จสิ้นในเดือนเม.ย.64