“บิ๊กเมาน์เท่น” อย่าปล่อยให้ คนไม่เคารพก.ม. ลอยนวล

16 ธ.ค. 2563 | 04:00 น.

“บิ๊กเมาน์เท่น” อย่าปล่อยให้ คนไม่เคารพก.ม. ลอยนวล : คอลัมน์ฐานโซไซตี ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3636 หน้า 4 ระหว่างวันที่ 17-19 ธ.ค.2563 โดย... ว.เชิงดอย

 

+++ ทำเอาหวาดผวากันไปทั้งประเทศ กับการจัดคอนเสิร์ต Big Mountain Music Festival 11 “บิ๊กเมาน์เท่น มิวสิกเฟสติวัล 11” ที่สนามกอล์ฟดิโอเชียน เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เพราะกลัวว่าจะมีการแพร่ระบาดของไวรัสมฤตยูโคโรนา-2019 หรือ โควิด-19 ในหมู่คนหมู่มากในประเทศไทยเกิดขึ้นอีก เพราะจากข้อมูลมีผู้ที่เดินทางมาจาก “จังหวัดเชียงใหม่” 12 คน ที่มาร่วมงานคอนเสิร์ตดังกล่าว จนทาง “จังหวัดนคราชสีมา” ต้องสั่งให้ยกเลิกการจัดคอนเสิร์ตในวันที่ 13 ธ.ค.2563 ลง แต่ทางผู้จัดก็ยัง “ดันทุรัง” จัดการแสดงคอนเสิร์ตต่อไป และต้องยกเลิกในเวลา 22.00 น. ยังโชคดีที่ผู้ที่มาจากเชียงใหม่ ทั้งหมดได้รับการยืนยันผลตรวจหาเชื้อโควิดในเวลาต่อมาว่า “เป็นลบ”
 

+++ นพ.วิญญู จันทร์เนตร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา ในฐานะคณะทำงานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ให้ข้อมูลผู้ที่ไปร่วมคอนเสิร์ตดังกล่าว ว่า มีจำนวนการลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่น “ไทยชนะ” วันแรก 5.7 หมื่นคน วันสุดท้าย 3.6 หมื่นคน แม้จะสวมหน้ากากอนามัย แต่ในขณะรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือ ส่งเสียงร้องเพลง ซึ่งต้องเปิดหน้ากากอนามัยออก ถือเป็นช่วง “การ์ดตก” ก็มีโอกาสติดเชื้อได้เสมอ จึงฝากถึงผู้ที่ร่วมกิจกรรมชมคอนเสิร์ตให้หมั่นดูแลรักษาสุขภาพตัวเอง หากมีอาการป่วยให้รีบไปพบแพทย์ พร้อมแจ้งไทม์ไลน์ตามความเป็นจริง ส่วนผู้ที่มีอาการปกติต้องสังเกตตัวเองต่ออีก 14 วัน


+++ เช่นเดียวกับ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.โรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข บอกว่า เรื่องการจัดคอนเสิร์ต “บิ๊กเมาน์เท่น” นั้น เป็นธรรมดาที่บุคลากรทางแพทย์จะห่วงกังวล เพราะการจัดการสถานที่ยิ่งมีคนจำนวนมากเท่าไหร่ ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงเพราะความเสี่ยงผันแปรตามจำนวนคน สำหรับคน 30,000 คน หากต้องมีการติดตามคนสัมผัสใกล้ชิด ก็ยิ่งมีจำนวนมาก ปกติ 1 คน ต้องตรวจคนสัมผัสประมาณ 20-40 คน และในงานคอนเสิร์ตเป็นคนมาจากต่างพื้นที่มาจากทั่วประเทศ ยิ่งมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โอกาสการควบคุมตัวเองยิ่งน้อย และที่หน้าเวที 1 คน ต้องเจอคนไม่ต่ำกว่า 100 คน ดังนั้น การจัดการระยะห่าง จึงเป็นสิ่งสำคัญ
 

+++ การ “ดันทุรัง” จัดคอนเสิร์ตครั้งนี้ ทั้งๆ ที่ถูกห้ามแล้ว ทำให้ วิเชียร จันทรโณทัย พ่อเมืองนครราชสีมา ต้องสั่งการตำรวจ สภ.ปากช่อง ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ดำเนินคดีกับผู้จัดคอนเสิร์ตที่ฝ่าฝืนคำสั่ง โดยมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่มีเรื่องของ “การเมือง” เข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
 

+++ ที่ เชียงใหม่ เชียงราย พอมีคนที่ติดเชื้อโควิด-19 จากเมียนมา ลักลอบเข้าไปในประเทศไทยเท่านั้น ผู้คนก็หวาดผวากันไปทั้งประเทศ ไม่ใช่เฉพาะที่เชียงใหม่ และ เชียงราย เท่านั้น ทำให้ไม่มีใครกล้าเดินทางไปท่องเที่ยว กิจกรรมต่างๆ ก็ต้องงดลง ธุรกิจ ห้างร้าน โรงแรมต่างๆ ได้รับผลกระทบ ผู้ประกอบการโอดครวญไปตามๆ กัน หากที่ “บิ๊กเมาน์เท่น” มีการแพร่เชื้อโควิด-19 ขึ้น คงได้ “เศร้าใจ” กันทั้งประเทศอีกระลอก คงไม่ต้อง “สาธยาย” หลอกนะว่า จะมีผลกระทบอะไรตามมา ...พวกที่ “ดื้อรั้น” ไม่เคารถกฎหมาย ต้องกำราบเสียให้เข็ด อย่าปล่อยให้ลอยนวล


+++ ชะแว้บไปที่ โครงการ “คนละครึ่ง”  เฟส 2 พร้อมเปิดรับลงทะเบียนสำหรับประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการเพิ่มเติมอีก 5 ล้านคน ในวันพุธที่ 16 ธ.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 06.00 – 23.00 น. จนกว่าจะครบ 5 ล้านสิทธิ กฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง ย้ำว่า คุณสมบัติผู้ลงทะเบียนจะต้องเป็นผู้ที่มีสัญชาติไทย มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มีบัตรประจำตัวประชาชน และไม่ใช่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยผู้ที่ถูกตัดสิทธิจากการไม่ใช่สิทธิโครงการคนละครึ่งระยะแรกสามารถลงทะเบียน ระยะที่ 2 ได้ ส่วนผู้ได้รับสิทธิเดิมสามารถกดปุ่มยืนยันการเข้าร่วมโครงการ ระยะที่ 2 ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.63 เป็นต้นไป …ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 13 ธ.ค.63 มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วม “คนละครึ่ง” แล้วกว่า 9.7 แสนร้านค้า และมีผู้ใช้สิทธิแล้วจำนวน 9,537,093 คน โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 43,330 ล้านบาท
 

+++ ไปปิดท้ายกันที่ กรณีหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3635 หน้า 13 นำเสนอข่าวเรื่อง “ออมสิน ต่อลมหายใจชาวสมุย” เพราะเห็นว่าเป็นโครงการที่ดี ที่ธนาคารรัฐอย่างออมสิน คิดรูปแบบที่จะเข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ประสบปัญหาสภาพคล่อง จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่หายไป โดยการนำเสนอข่าวได้สัมภาษณ์ความคิดเห็นของผู้ประกอบการในพื้นที่ และ นายกสมาคมการท่องเที่ยว ที่เสนอข้อเรียกร้องเพิ่มเติมให้ทางการเข้าไปช่วยเหลือ แต่เกิดความเข้าใจผิดไป กลายเป็นการนำเสนอข้อเสนอแนะของ วิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ทางหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ จึงขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย