“ทีเอ็มบี” รุกหนัก “Business ONE” ตั้งเป้าปี 64 มีลูกค้าแสนราย

15 ธ.ค. 2563 | 08:46 น.

"ทีเอ็มบี" รุกหนัก “Business ONE” ธนาคารดิจิทัลเพื่อโลกธุรกิจ คาดสิ้นปี64มีลูกค้าใช้งาน1แสนบริษัทจากปัจจุบันลูกค้ากว่า60%ทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัล

นายเสนธิป ศรีไพพรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบี หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้ดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้น ส่งผลให้อัตราการเติบโตของธุรกรรมออนไลน์ในประเทศไทยเติบโตสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คนไทยซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้น 21% และทำธุรกรรมการเงินออนไลน์สูงขึ้นถึง 93% ลูกค้าธุรกิจก็เช่นเดียวกัน โดยลูกค้าธุรกิจของธนาคารเอง ทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ของทีเอ็มบีเพิ่มขึ้น 50% และลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคารทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ เพิ่มขึ้นถึง 100% ในปีที่ผ่านมา

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

LEAN Supply Chain อาวุธที่ไม่เคยล้าหลัง รับมือเศรษฐกิจถดถอย

"เอสแอนด์พี" ปรับเพิ่มเรทติ้ง TMB เป็น BBB คาดรวมกิจการแล้วเสร็จ ก.ค.64

ทีเอ็มบีแนะ โยกเงินไปออมทรัพย์พิเศษ สร้างรายได้เพิ่ม 5 เท่า

พิษโควิดกดดอกเบี้ยต่ำ ผู้ออมรายย่อยรายได้หด

TMBAM Eastsping ยืดเวลาจ่ายเงินคืน 4 กองทุน

 

 

 

สำหรับลูกค้าธุรกิจของทีเอ็มบีส่วนใหญ่ยังมีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการเข้าหลายระบบเมื่อต้องการทำธุรกรรมหลายประเภท ได้แก่การจ่ายเงินหรือโอนเงินทั้งในประเทศและต่างประเทศ การเบิกวงเงินสินเชื่อ ล้วนต้องเข้าระบบที่แตกต่างกัน การเข้าใช้งานแต่ละบริการมีหลายขั้นตอน  แบบฟอร์มในระบบดิจิทัลใช้ยาก ใช้เวลานานในการอัปโหลดไฟล์  หรือแม้ว่าจะทำธุรกรรมบนดิจิทัลแล้ว แต่ยังต้องรับ-ส่งเอกสารที่ยังเป็นกระดาษกับคู่ค้าและหน่วยงานภาครัฐ ทีเอ็มบีจึงอยากแก้ปัญหาเหล่านี้

 

“Business ONE” ธนาคารดิจิทัลเพื่อโลกธุรกิจ  พร้อมเป็นผู้ช่วยทางการเงินและการบริหารธุรกิจ เสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่หรือเอสเอ็มอี โดย “Business ONE” ยังเป็น “Digital Business Management Platform” ที่เชื่อมโยงส่วนของ financial และ non-financial เข้าด้วยกันเพื่อให้ลูกค้าสามารถบริหารธุรกิจได้จากที่เดียว ใช้งานง่าย และช่วยธุรกิจขนาดใหญ่และเอสเอ็มอีลดต้นทุนในการทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์

 

ทั้งนี้ เห็นได้จากลูกค้าธุรกิจที่มีปริมาณธุรกรรมจำนวนมากต้องเสียค่าธรรมเนียมเป็นหลักแสนบาท และการโอนเงินให้คู่ค้าต้องเข้า7หน้าจอ ดังนั้นการทำธรุกรรมผ่านBusiness One นอกจากช่วยลดขั้นตอนการทำงานลงยังลดต้นทุนอีกด้วยที่สำคัญจะช่วยลูกค้าให้มีข้อมูลที่มีคุณภาพมากขึ้นในการประกอบการวางแผนตัดสินใจรวมถึงใช้ฐานข้อมูลวางแผนกระแสเงินสดหรือแคชโฟร์ ซึ่งเป็นประโยชน์ที่ลูกค้าไม่เคยได้รับจากแพลตฟอร์มอื่น

 

ด้านนายรัชกร ชยาภิรัต หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร นวัตกรรมทางดิจิทัล (ลูกค้าธุรกิจ) ทีเอ็มบี กล่าวเสริมว่า “Business ONE” ถือเป็นนวัตกรรมดิจิทัลที่แตกต่างจากอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งอื่น ๆ  เพราะ - ONE Platform – “Business ONE” ให้ลูกค้าธุรกิจทำทุกธุรกรรมได้ครบจบในระบบเดียว ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเงินหรือโอนเงินให้คู่ค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ การเบิกวงเงินสินเชื่อเพื่อธุรกิจ ลดปัญหาไม่ต้องจำรหัสเข้าใช้งานหลายระบบ และยังสามารถใช้งานได้จากทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเข้าผ่านคอมพิวเตอร์

แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน โดยได้รับประสบการณ์การใช้งานแบบเดียวกัน - ONE to Control – “Business ONE” ให้ลูกค้าธุรกิจควบคุมธุรกิจได้ในระบบเดียว ใช้งานง่าย สามารถเลือกออกแบบหน้าจอการใช้งานได้ตามกลุ่มผู้ใช้งาน ทำรายการพร้อมกันได้หลายรายการในครั้งเดียว มีระบบช่วยแนะนำวิธีการโอนหรือจ่ายเงินที่สะดวก รวมถึงการหาข้อมูลทางบัญชีที่รวดเร็ว และหากมีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง ระบบจะสามารถประมวลข้อมูลได้เอง และแสดงข้อมูลในเชิงวิเคราะห์ เป็นการช่วยวางแผนการเงินในอนาคตได้

- ONE to Command – “Business ONE” เป็นระบบเดียวที่สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง financial solution ของธนาคาร และ non-financial solutions อื่น ๆ ยกตัวอย่างเช่น การเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน HR Management ที่ช่วยให้ลูกค้าบริหารทรัพยากรบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะเชื่อมต่อเรื่องการบริหารพนักงานและการจ่ายเงินเดือนเข้าด้วยกัน

 

ทั้งนี้ธนาคารจะทยอยโอนย้ายลูกค้าปัจจุบันขึ้นระบบใหม่นี้ ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป และคาดว่าภายในสิ้นปี 2564 จะมีลูกค้าธุรกิจที่เป็นนิติบุคคลของทั้งทีเอ็มบีและธนชาต มาใช้งานกว่า 100,000 บริษัท จากปัจจุบันลูกค้ากว่า 60% ที่ใช้ช่องทางดิจิตอลและมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด