ออสเตรเลียแชร์ประสบการณ์ วัคซีนไม่ใช่คำตอบสุดท้าย

15 ธ.ค. 2563 | 08:32 น.

ออสเตรเลียแนะมาตรการรับมือโควิด-19 แบบองค์รวม ชี้ใช้วัคซีนอย่างเดียวไม่น่าจะเพียงพอ

 

สถาบันวิทยาศาสตร์สุขภาพและการแพทย์แห่งออสเตรเลีย (AAHMS) เตือนว่า วัคซีน เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะทำให้ ประเทศปลอดภัยจากโรคโควิด-19 ในปี 2564 ที่กำลังจะมาถึง

ออสเตรเลียแชร์ประสบการณ์ วัคซีนไม่ใช่คำตอบสุดท้าย

สถาบัน AAHMS ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐควีนส์แลนด์ ประกอบด้วยนักวิจัยกว่า 400 คน ได้เผยแพร่รายงานที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนต่าง ๆ สำหรับการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศออสเตรเลีย ทางสถาบันเรียกร้องให้มีการดำเนินการตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ครอบคลุมหลากมิติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึง การตรวจหาเชื้อ การสวมหน้ากากอนามัย การติดตามเส้นทางผู้สัมผัสเชื้อ และการบังคับกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19

 

นอกจากนี้ สถาบัน AAHMS ยังเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาสุขภาพระยะยาวที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เช่น ปัญหาสุขภาพจิตของประชาชน

 

กระทรวงสาธารณสุขของออสเตรเลียเปิดเผยว่า ตลอดช่วง 7 วันที่ผ่านมา (นับย้อนไปตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค.)ออสเตรเลียไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศ แต่พบผู้ติดเชื้อที่มาจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 68 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อแตะ 28,039 ราย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ออสเตรเลีย ใช้ไม้แข็งจ่อ"ปรับเงิน"ปชช.ไม่ยอมตรวจโควิด

รัฐวิกตอเรีย ออสเตรเลีย จ่อขยายภาวะฉุกเฉินคุมโควิดอีก 1 ปี

เริ่มแล้ว! ออสเตรเลียดีเดย์ผลิตวัคซีนต้านโควิด เป้า 30 ล้านโดส

 

"หากพิจารณามาตรการระดับโลก แนวทางของออสเตรเลียถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก" นางทาเนีย ซอร์เรล นักวิจัยด้านโรคติดเชื้อและประธานคณะกรรมการที่จัดทำรายงานระบุในการเผยแพร่ผ่านสื่อ

อย่างไรก็ตาม นางซอร์เรลระบุเสริมว่า การแพร่ระบาดระลอก 2 ในรัฐวิกตอเรียแสดงให้เห็นว่า ความสำเร็จที่มีอยู่นั้นอาจจะยังเปราะบางมาก

 

ทั้งนี้ สถาบัน AAHMS ได้ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกกับการทบทวนใน 4 ด้านได้แก่ ความจำเป็นในการสร้างระบบที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงความสามารถในการพัฒนา ผลิต และแจกจ่ายวัคซีน ตลอดจนการรักษา และการวินิจฉัยโรค

นายสก็อต มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย

ออสเตรเลียเป็นประเทศหนึ่งที่ทำสัญญาจองซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 ไว้กับบริษัทยาหลายราย หนึ่งในนั้นคือบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าที่ร่วมวิจัยวัคซีน AZD1222 กับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดจากประเทศอังกฤษ ทางบริษัทมีสัญญาส่งมอบวัคซีนชุดแรก 3.8 ล้านโดสให้กับรัฐบาลออสเตรเลียในเดือนม.ค.หรือ ก.พ.ปีหน้า จากนั้นจึงจะมีการส่งมอบให้ครบ 33.8 ล้านโดส  

 

อีกสัญญาหนึ่งเป็นการจองซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 ราว 30 ล้านโดส ที่พัฒนาโดยซีเอสแอล บริษัทท้องถิ่นที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไบโอเทคโนโลยี นอกจากนี้ ออสเตรเลียยังจะจัดซื้อวัคซีนอีก 51 ล้านโดสจากมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ของประเทศออสเตรเลียเอง

 

หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน รัฐบาลออสเตรเลียจะสามารถแจกจ่ายและเริ่มการฉีดวัคซีนฟรีให้แก่ประชาชนได้ตลอดช่วงปีหน้า (2564)