16 ธันวาคม 2563 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเป็นประธานการเปิดบริการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง ซึ่งเป็นโครงที่รัฐบาลไม่ต้องออกเงินก่อสร้าง แต่จะได้รายได้ 100% จากค่าตั๋วโดยสาร เพราะมีกรุงเทพมหานคร(กทม.) เป็นเจ้าของโครงการ และ BTS เป็นผู้บริหารจัดการเดินรถ
รถไฟฟ้าสายสีทองเป็นโครงการรถไฟฟ้าสั้นที่สุดในประเทศไทยมีความยาวไม่ถึง 2 กิโลเมตร หรือระยะทางวิ่งเพียง 1.74 กิโลเมตรเท่านั้น แต่ต้องบอกว่าทรงพลัง คุ้มค่าทางเศรษฐกิจ เชื่อมโยงรถไฟฟ้าถึง 3 สาย ตอบโจทย์การพัฒนาและที่สำคัญได้ใจชาวฝั่งธนบุรีมากที่สุด จากการเดินทางเชื่อมโยงไปมาหาสู่กันกับฝั่งพระนคร ได้อย่างกระชับรวดเร็วไร้รอยต่อที่สถานีกรุงธนบุรีสายสีเขียว ซึ่งมีแผนเปิดเต็มทั้งระบบไปถึงคูคตในวันและเวลาเดียวกัน
รู้จักรถไฟฟ้าสายสีทอง
วัตถุประสงค์ของรถไฟฟ้าสายสีทอง
รถไฟฟ้าสายสีทองมีความเป็นเอกลักษณ์ตรงที่เป็น “สายเชื่อม” ซึ่งวางแผนก่อสร้างมาเพื่อเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสีแดง และสายสีม่วง โดยรถไฟฟ้าสายสีทองจะมีสถานีทั้งหมด 4 สถานี ซึ่งปัจจุบันก่อสร้างเฟสแรกเสร็จแล้ว พร้อมเปิดให้บริการ 3 สถานี
รถไฟฟ้าสายสีทองเป็นรถไฟฟ้าสายเดียวที่วิ่งขนานกับแม่น้ำเจ้าพระยา (แทนที่จะวิ่งข้ามแม่น้ำ) และมีเป้าหมายเมื่อแรกเริ่มโครงการเพื่อช่วยบรรเทาความหนาแน่นของการจราจรที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเหนือความคาดหมายจากการเติบโตแบบก้าวกระโดดของการพัฒนาโครงการต่างๆ ในพื้นที่ธนบุรี และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในพื้นที่ย่านคลองสาน ซึ่งมีจำนวนสถานที่ราชการสถานที่สำคัญที่มีผู้เข้ามาใช้บริการจำนวนมากอยู่หลายสถานที่ นอกจากนั้นยังมีโครงการที่อยู่อาศัย โครงการเชิงพาณิชย์ โครงการเชิงชุมชนและวัฒนธรรม อีกเป็นจำนวนมากที่ถูกพัฒนาขึ้นในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ดังนั้นคาดการณ์ว่า การมีรถไฟฟ้าสายสีทอง จะช่วยลดจำนวนรถบนถนนคลองสานลง ในแต่ละชั่วโมง ให้หายไปประมาณ 6,000 คัน
รถไฟฟ้าสายสีทอง ลดค่าใช้จ่าย และประหยัดเวลาการเดินทาง
ประโยชน์โดยตรงในทันที จะเกิดกับผู้คนที่ต้องเดินทางมาในพื้นที่ทุกวัน เพื่อทำงานหรือใช้บริการสถานที่ราชการและสถานที่ต่างๆ โดยรถไฟฟ้าสายสีทองจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และช่วยประหยัดเวลาในการเดินทาง ในแต่ละวัน เช่น
ในทุกวัน จะมีผู้คนจำนวนกว่า 4.000 คน เดินทางไปใช้บริการโรงพยาบาลตากสิน, กว่า 30,000 คน เดินทางไปโรงเรียน มหาวิทยาลัย และหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่บริเวณนี้, และกว่า 25,000 คน เดินทางเข้าพื้นที่เพื่อใช้บริการเรือข้ามฟากและเรือโดยสารจาก 20 ท่าเรือที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีทอง ซึ่งนับจากนี้ไป ผู้คนเหล่านี้จะสามารถสัญจรเชื่อมต่อการเดินทางกับระบบขนส่งมวลชนสาธารณะได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย
ก่อสร้างโดยไม่ใช้เงินลงทุนจากรัฐบาล
ภาครัฐไม่ต้องใช้เงินลงทุนใดๆ ในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีทอง ในขณะที่เมื่อรถไฟฟ้าสายสีทองก่อสร้างแล้วเสร็จ จะกลายเป็นทรัพย์สินของกรุงเทพมหานครเป็นเจ้าของ และภาครัฐจะได้รับรายได้จากค่าตั๋วโดยสารทั้งหมด โดยเงินลงทุนก่อสร้าง มาจากการขายพื้นที่โฆษณาของรถไฟฟ้าสายสีทองให้กับเอกชนล่วงหน้า
ความพิเศษและจุดที่น่าสนใจของรถไฟฟ้าสายสีทอง
นอกจากนี้รถไฟฟ้าสายสีทองยังช่วยปลุกทำเลย่านเจริญนครให้กลับมาคึกคักมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะ การท่องเที่ยว กินดื่ม ดื่มด่ำ ช็อปปิ้ง ตลอดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะว่าโซนนี้แวดล้อมไปด้วยโรงแรมหรูริมน้ำมากมาย รวมถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง ไอคอนสยาม ซึ่ง ใครเดินทางมาต้องเชื่อมกับสายสีทอง ซึ่งเป็นสายที่วิ่งรับส่งผู้โดยสารเข้ามาถึงถนนเจริญนครช่วงต้น
ขณะที่ดินโซนนี้จะถูกนำไปพัฒนาเพื่อทำเป็นโครงการที่อยู่อาศัยในรูปแบบคอนโดมิเนียมตั้งแต่ระดับกลางจนถึงระดับสูง ปัจจุบัน ที่ดินในโซนนี้ มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 400,000-800,000 บาทต่อตารางวา และราคาอาจจะแตะอยู่ในช่วง 800,000-1,000,000 บาทต่อตารางวา หากเป็นบริเวณใกล้เคียงไอคอนสยาม ที่ล่าสุด ค่ายเสนา บริษัทเสนาดีเวลอปเม้นท์จำกัด(มหาชน) ปักหมุดคอนโดหรูบริเวณสายสีทองติดกับห้าง ยักษ์ แห่งนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง