‘พงษ์ลาภ’ลุยรายได้ใหม่ ให้เช่าโกดัง-ออฟฟิศ

14 ธ.ค. 2563 | 06:03 น.

 “พงษ์ลาภ” โชว์แผนปรับตัวหลังตลาดข้าวยังไม่เอื้อต่อการส่งออก จากราคาข้าวไทยแพงกว่าคู่แข่ง  ลุยลดขนาดองค์กร ปล่อยเช่าโกดัง-ออฟฟิศ สร้างรายได้หลักประคองธุรกิจ

สถานการณ์ส่งออกข้าวไทยยังน่าห่วง ช่วง 10 เดือนแรกปี 2563 ส่งออกได้ 4.48 ล้านตัน ลดลง 31.4% มูลค่า 93,041 ล้านบาท ลดลง 15.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

 

 นายวันนิวัฒ กิติเรียงลาภ รองประธาน บริษัท พงษ์ลาภ จำกัด หนึ่งในผู้ส่งออกข้าว เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ข้าวไทยที่ส่งออกได้ลดลง มีส่วนสำคัญจากราคาสูงกว่าคู่แข่งขัน ทั้งเวียดนาม อินเดีย รวมถึงปัจจัยด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าเงินบาท พันธุ์ข้าวของไทยที่ยังไม่หลากหลาย เป็นอีกส่วนหนึ่งทำให้ไทยทำตลาดข้าวยาก และถูกแย่งตลาดข้าวไป ในส่วนของบริษัทเองแม้จะมีสัดส่วนการส่งออกถึง 90% คิดเป็นปริมาณปีละหลายแสนตัน แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันทำให้บริษัทปรับแผนธุรกิจไปทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่ส่งออกข้าวเพื่อชดเชยรายได้ที่หายไป เช่น การเปิดโกดัง หรือสำนักงานให้เช่า ซึ่งถือว่าเป็นรายได้หลักในช่วงที่ยังส่งออกข้าวได้ไม่มาก  โชคดีที่บริษัทมีโกดังอยู่ในจุดศูนย์กลาง เช่น ที่บางกระดี จ.ปทุมธานี ซึ่งตั้งอยู่ใกล้นิคมอุตสาหกรรมที่นักลงทุน เช่น ญี่ปุ่น จีน มาเช่าเก็บสินค้าได้

‘พงษ์ลาภ’ลุยรายได้ใหม่  ให้เช่าโกดัง-ออฟฟิศ

 “หลักการการบริหารของผมคือ การทำให้องค์กรอยู่รอด นั่นคือการทำขนาดองค์กรให้เล็กลง ซึ่งโชคดีมากที่องค์กรเราไซซ์เล็ก จ้างคนงานไม่มาก หากวันนี้ไม่มีงานองค์กรเราก็อยู่ได้ ส่วนปีหน้าบริษัทยังคงบริหารงานแบบค่อยเป็นค่อยไป และเชื่อว่าคนที่มีสายป่านไม่ยาว อย่างกลุ่มโรงสี หรือผู้ส่งออกรายเล็กๆ จะล้มหายไปค่อนข้างมาก จะเหลือผู้เล่น หรือผู้ส่งออกจริงๆ ไม่กี่ราย ก็น่าจะทำให้การแข่งขันไม่สูง

 

 ทั้งนี้สิ่งที่เอกชนเป็นห่วงมากคือไทยต้องเร่งพัฒนาสายพันธุ์ข้าวใหม่ๆ เพื่อให้ตลาดมีทางเลือกมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาไทยแทบจะไม่มีสายพันธุ์ข้าวใหม่ๆ ออกมาเลย ถ้าใน 2-3 ปีนี้มีพันธุ์ใหม่ๆ ออกมาน่าจะทำให้ตลาดมีความคึกคักมากขึ้น ตลาดที่หายไปก็น่าจะดึงกลับมาได้บ้าง”