สธ.ชี้โควิด-19 จากท่าขี้เหล็ก สามารถควบคุมได้ ผู้ป่วย 46 รายเท่าเดิม

10 ธ.ค. 2563 | 10:42 น.

สธ.ชี้โควิด-19 จากท่าขี้เหล็กสามารถควบคุมได้ ผู้ป่วย 46 รายเท่าเดิม ส่วนผู้ติดเชื้อบุคลากรการแพทย์รายใหม่ เป็นกลุ่มเสี่ยงสูงในระบบเฝ้าระวังและกักกันโรค

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรณีผู้ป่วยโควิด 19 จากจ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา จำนวนผู้ป่วย 46 รายเท่าเดิม แสดงให้เห็นว่าเราสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ที่สำคัญ คือ ในจำนวนนี้ 27 รายเป็นการนำผู้เดินทางเข้าระบบกักกันโรค ทำให้ตรวจพบในสถานกักกันโรค และไม่เกิดการแพร่กระจายเชื้อ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดได้ดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้น ตรวจตราการลักลอบเข้าเมือง และประสานไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน หากมีคนไทยตกค้างจะนำกลับมาเข้าสู่ระบบกักกันโรค โดยที่จังหวัดเชียงรายซึ่งมีผู้อยู่ในสถานกักกันโรคจำนวนมาก วันนี้อาจจะมีรายงานเพิ่มเติมอีก 3 รายในสถานกักกันโรค ทางจังหวัดเชียงรายจะแถลงข่าวต่อไป ถือเป็นเรื่องดีทำให้ควบคุมโรคได้ ส่วนจังหวัดอื่นๆ เช่น เชียงใหม่ พะเยา กรุงเทพ พิจิตร ราชบุรี สิงห์บุรี เมื่อไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มครบ 14 วันก็จะถือว่าเข้าสู่ภาวะปกติ

 

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยอดโควิด 10 ธ.ค.63 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 18 ราย จากในประเทศ 1 ราย ต่างประเทศ 17 ราย

เปิดไทม์ไลน์ บุคลากรการแพทย์ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 1 ราย

ทั่วโลกติดโควิด-19 ทะลุ 69 ล้านราย เสียชีวิตเพิ่มกว่า 1 หมื่นราย

เชียงใหม่-เชียงราย วุ่น! ข่าวปลอมโควิดสะพัด วอนอย่าหลงเชื่อ-หยุดแชร์

ผู้ว่าฯเน้นย้ำ เชียงรายเที่ยวได้ ปลอดภัยจาก"โควิด-19

 

นายแพทย์โอภาส กล่าวต่อว่า ความเสี่ยงของการติดเชื้อขึ้นอยู่กับการสัมผัสใกล้ชิดในสถานที่และเวลาเดียวกันกับผู้ป่วยโดยไม่สวมหน้ากาก ได้แก่ คนในครอบครัว อยู่บ้านเดียวกัน โดยคู่สมรสมีโอกาสติดเชื้อร้อยละ 40 - 50 บุตรร้อยละ 10 – 20, ผู้ที่ยืนพูดคุยกับผู้ป่วยระยะ 1 เมตรเกิน 5 นาที, ถูกผู้ป่วยจามใส่ และผู้ที่อยู่ในที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวกอากาศ เช่นในรถตู้ หรือห้องที่ปิดทึบเกิน 5 นาที เน้นย้ำมาตรการที่ดีที่สุดที่ประชาชนต้องช่วยกันคือการป้องกันตัวเอง ใส่หน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่สาธารณะให้มากที่สุด สำหรับกรณีผู้ปกครองพบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและมีการปิดโรงเรียนนั้น ขอชี้แจงว่า การพบกับผู้สัมผัสเสี่ยงสูงถือว่าไม่มีความเสี่ยง จึงไม่จำเป็นต้องปิดโรงเรียน กรณีที่จะปิดโรงเรียนหรือสถานที่ต่างๆ จะปิดเมื่อพบผู้ติดเชื้อเท่านั้น และปิดเพื่อทำความสะอาดเท่านั้น

สธ.ชี้โควิด-19 จากท่าขี้เหล็ก สามารถควบคุมได้ ผู้ป่วย 46 รายเท่าเดิม

นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กล่าวว่า  สำหรับผู้ติดเชื้อในประเทศรายใหม่ 1 ราย เพศหญิง อายุ 29 ปี เป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่ในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 31 รายในระบบเฝ้าระวังของผู้ป่วยกลุ่มเดิม 5 รายที่รายงานก่อนหน้า โดยการตรวจครั้งแรกวันที่ 5 ธันวาคม 2563 ผลเป็นลบ ตรวจซ้ำครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2563 ตรวจพบเชื้อ มีอาการ ไข้ เจ็บคอ คัดจมูก ปวดกล้ามเนื้อ โดยเป็นผู้ติดเชื้อรายที่ 6 มีประวัติรับประทานอาหารร่วมกับรายที่ 1 โดยขณะนี้ โรงพยาบาลเอกชนคู่สัญญาปฏิบัติงาน ASQ ดังกล่าว ได้ตรวจเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 851 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ ผลออกแล้ว 745 คนเป็นลบทั้งหมด อยู่ระหว่างรอผลตรวจอีก 106 คน สำหรับเพื่อนร่วมหอพัก ผู้ที่อยู่ในห้องสัมภาษณ์งานที่โรงพยาบาล และสมาชิกในครอบครัวรวม 20 คน ผลตรวจไม่พบเชื้อ ส่วนเพื่อนร่วมงานและเจ้าหน้าที่ทั้งหมดในสถานที่ทำงานสถานกักกันทางเลือกทั้ง 2 แห่ง ตรวจหาเชื้อ 34 คน ผลไม่พบเชื้อเช่นเดียวกัน

 

นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร

 

นายแพทย์โสภณกล่าวต่อว่า จากไทม์ไลน์จะเห็นได้ว่าทั้ง 6 รายอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ทำงานในสถานที่เดียวกัน และมีการสังสรรค์กันนอกเวลางาน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อาจจะไม่ได้มีการป้องกันตัว จึงขอแนะนำผู้ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับโรคโควิด 19 ขอให้สังเกตอาการตนเองและระมัดระวังการป้องกันการรับเชื้อและการแพร่เชื้ออยู่ตลอดเวลา ทั้งในเวลางานและนอกเวลางาน ที่สำคัญต้องสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ หากมีอาการป่วยต้องรีบรายงานตัวต่อผู้บังคับบัญชา เพื่อเข้ารับการตรวจหาเชื้อทันที

 

สำหรับข้อกังวลเรื่องผู้ติดเชื้อมีประวัติเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะนั้น ขอให้อย่าตระหนก เนื่องจากวันที่ผู้ติดเชื้อไปใช้บริการ ยังไม่มีอาการป่วย และสวมหน้ากากตลอดเวลา ถือว่ามีความเสี่ยงต่ำมาก หากสงสัยว่าอยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว สามารถรายงานตัวหรือรับคำปรึกษาได้ที่โรงพยาบาลและหน่วยงานสาธารณสุขใกล้บ้านได้ หรือโทรสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422  และขอให้ยังคงสวมหน้ากาก เว้นระยะห่างและล้างมือบ่อยๆ ต่อจนครบ 14 วัน แต่หากมีอาการทางเดินหายใจ ไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูก จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส สามารถเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลใกล้บ้านได้ทันที