“แรมโบ้”ชี้งัด“ม.112”ดำเนินคดีแกนนำม็อบถูกต้องแล้ว

10 ธ.ค. 2563 | 10:33 น.

“แรมโบ้”ชี้งัด ม.112 ดำเนินคดีแกนนำม็อบเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว ขอคณะราษฎร อย่าเรียกร้องขอให้ทบทวน เหตุทำผิดก.ม.แล้วต้องกล้ายอมรับความจริง 

 

วันนี้( 10 ธ.ค.63) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี “คณะราษฎร” ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ยกเลิกกฎหมายมาตรา 112 ที่ใช้เป็นเครื่องมือดำเนินคดีผู้ชุมนุม ว่า ที่มีการดำเนินคดีมาตรา 112 กับผู้ชุมนุม ถือว่าเป็นการทำตามกฎหมายที่มีอยู่ มีความเหมาะสมที่สุดแล้ว และที่ก่อนหน้านี้นายกฯ ระบุว่าจะไม่ใช้มาตรา 112 เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระเมตตา  มีพระมหากรุณาธิคุณ ไม่อยากให้มีการดำเนินคดี 

 

แต่มาถึงตอนนี้จะเห็นได้ว่า ผู้ชุมนุมทำการจาบจ้วงก้าวล่วงสถาบันอย่างหนัก คนเลวๆ พวกนี้ไม่เคยมีจิตสำนึกที่ทรงพระเมตตาประทานให้ตลอดเวลาที่ผ่านมา ดังนั้น รัฐบาลและเจ้าหน้าที่จึงจะต้องดำเนินการตามกฎหมายที่มีอยู่ทั้งหมด ทั้งนี้ มองว่าหากผู้ชุมนุมกระทำผิดกฎหมายอย่างหนักเช่นนี้ต่อไป คนในประเทศก็ยอมรับไม่ได้เช่นกัน


“ที่ผ่านมานายกฯ ไม่เคยห้ามการชุมนุม และตักเตือนด้วยความห่วงใยในฐานะลูกหลานว่าอย่าทำผิดกฎหมายบ้านเมือง แต่ผู้ชุมนุมได้ทำผิดซ้ำซาก อีกทั้งจาบจ้วงสถาบันอย่างมาก และนับวันยิ่งกระทำมากขึ้น ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ก็ต้องบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่ทั้งหมด ดำเนินคดีกับผู้ชุมนุม ซึ่งมั่นใจว่าคนส่วนใหญ่ในประเทศ ที่รักประเทศ รักสถาบัน ต้องการให้บังคับใช้มาตรา112 กับผู้ชุมนุม เพราะทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของแกนนำผู้ชุมนุมที่กำลังต้องการให้เกิดความรุนแรง วุ่นวายในบ้านเมือง 


หวังเพียงสร้างสถานการณ์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหมดความอดทน ใช้กำลังสลายการชุมนุมตามที่แกนนำต้องการเพื่อเรียกร้องความเห็นใจและใส่ร้ายรัฐบาลใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม ใครก็อ่านแผนการณ์เกมส์ตื้นๆของแกนนำเหล่านี้ออก รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่ตกหลุมพราง  ซึ่งต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ใช้ความนิ่มนวลอดทนถึงที่สุดและหันมาบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่รวมถึงใช้มาตรา112 กับพวกคนเลวๆ เช่นนี้ ถือว่าทำถูกต้องและได้รับเสียงเรียกร้องปรบมือให้กำลังใจจากประชาชนคนส่วนใหญ่ของประเทศ ว่ารัฐบาลและเจ้าหน้าที่เดินมาถูกทางแล้ว”


 

นอกจากนี้ผู้ชุมนุมก็ควรมีจิตสำนึกด้วยว่า กฎหมายคือกฎหมาย หากไม่อยากให้ถูกดำเนินคดี ก็ควรหยุดจาบจ้วงสถาบันและยุติการชุมนุมไป อย่าพูดหรือคิดเอาแต่ใจตัวเอง ต้องฟังเสียงจากคนอื่นบ้าง กล้าทำแล้วก็ต้องกล้ารับผิดชอบกับการกระทำของตัวเอง และยอมรับผลที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย


“ที่ผ่านมารัฐบาล เจ้าหน้าที่บ้านเมือง รวมถึงประชาชนในประเทศก็พยายามใช้ความอดทนที่จะไม่ดำเนินคดีกับแกนนำผู้ชุมนุม แต่มาถึงตอนนี้ ก็คงไม่มีใครที่จะทนกับพฤติกรรมของกลุ่มผู้ชุมนุมได้อีกต่อไป คนเลวๆ คิดล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ถือว่าเป็นพวกคิดกบฎต่อประเทศ กล้าหาญชาญชัยคิดจะเปลี่ยนการปกครองประเทศให้เป็นสาธารณรัฐ สมควรต้องจับแกนนำเหล่านี้เข้าคุกให้หมดหรือไม่ก็ต้องช่วยกันขับไล่ออกนอกประเทศโดยเร็ว" นายสุภรณ์ ระบุ