อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ 30.04 บาทต่อดอลลาร์ ไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อน กรอบเงินบาทวันนี้ 29.95-30.15 บาทต่อดอลลาร์
ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ ผู้อำนวยการอาวุโส Chief Investment Office บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ (SCBS CIO) ระบุว่า ตลาดการเงินเคลื่อนไหวในเชิงบวกช่วงคืนที่ผ่านมาจากข่าวความคืบหน้าของนโยบายการคลังสหรัฐ ส่งผลให้ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 0.3% ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน ดัชนีความเชื่อมั่นในยุโรปก็ปรับตัวสูงขึ้น ล่าสุดความคาดหวังของนักลงทุนกับเศรษฐกิจในอนาคตของเยอรมัน (ZEW Investor Expectation) ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 55จุดในเดือนธันวาคมสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 46จุด หนุนดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้น 0.2% ตามไปด้วย
อย่างไรก็ดี ภาพตลาดเงินกลับไม่เปิดรับความเสี่ยงเท่าตลาดหุ้น เห็นได้จากบอนด์ยีลด์สหรัฐอายุสิบปีที่ทรงตัวบนระดับ 0.91% ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยแม้จะมีข่าวการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการคลัง ซึ่งตีความได้ว่าตลาดยังอยู่ในโหมดระวังตัวสูง
ส่วนฝั่งอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทระยะสั้นปรับตัวแข็งค่าเร็วกลับมาทดสอบระดับต่ำสุดของปีที่ 30.00 บาทต่อดอลลาร์จากแรงขายของผู้ส่งออก ขณะที่นักลงทุนต่างชาติบางส่วนทยอยขายบอนด์และเข้าซื้อหุ้นไทยในช่วงท้ายปี เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัว เรายังเชื่อว่าสภาพคล่องน่าจะอยู่ในระดับต่ำและเงินบาทสามารถอ่อนค่ากลับได้ถ้าตลาดหุ้นปรับฐาน
ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทแข็งค่าทดสอบแนว 30.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ทำสถิติแข็งค่าสุดในรอบปีนี้ หรือในรอบกว่า 11 เดือน โดยแม้เงินบาทจะยังเคลื่อนไหวในกรอบที่ค่อนข้างแคบ แต่ยังมีแรงหนุนในด้านแข็งค่าตามปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งขณะนี้ตลาดรอประเมิน 2 สัญญาณสำคัญที่อาจจะมีผลต่อทิศทางค่าเงินเพิ่มเติม คือ สัญญาณฟันด์โฟลว์ และท่าทีดูแลค่าเงินบาทจากทางการ
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 29.90-30.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยระยะสั้นที่สำคัญ ได้แก่ สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ ทิศทางฟันด์โฟลว์ของนักลงทุนต่างชาติ และผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (10 ธ.ค.)