อยากมีอาชีพอิสระ แล้วจะจัดการเงินอย่างไรให้อยู่รอดได้

08 ธ.ค. 2563 | 22:39 น.

ผู้ประกอบอาชีพอิสระมีความเป็นนายของตนเอง แต่การตัดสินใจเลือกประกอบอาชีพอิสระ ก็ต้องยอมรับในความเสี่ยงหลายด้าน โดยเฉพาะความไม่แน่นอนของรายได้ 

 

ทำไมอาชีพอิสระถึงได้รับความสนใจของยุคนี้ ?

 

ผู้ประกอบอาชีพอิสระมีความเป็นนายของตนเอง คือ สามารถกำหนดงาน เวลาทำงาน และรายได้ด้วยตนเอง โดยเป็นงานที่มีการใช้ความคิด ความรู้ และความสามารถของตนเองโดยตรง

 

แต่อย่างไรก็ตาม การที่ตัดสินใจเลือกประกอบอาชีพอิสระ ก็ต้องยอมรับในความเสี่ยงหลายด้าน โดยเฉพาะความไม่แน่นอนของรายได้ กล่าวคือ บางเดือนมีรายได้สูงมาก บางเดือนมีรายได้น้อย หรือบางเดือนอาจจะไม่มีรายได้เลย เช่นนี้แล้ว จึงมักจะมีคำถามในใจเสมอว่า จะอยู่รอดได้อย่างไร หรือจะมีเงินเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในระยะยาวหรือไม่ นอกจากนี้ ในกรณีที่เจ็บป่วยหนักจนไม่สามารถทำงานได้ ผู้ประกอบอาชีพอิสระก็ไม่มีสวัสดิการรองรับค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาล และคุ้มครองรายได้ในกรณีไม่ได้ทำงาน

 

ดังนั้น เราจะจัดการอย่างไรให้มีความเชื่อมั่นว่า การประกอบอาชีพอิสระก็สามารถอยู่รอดได้ และสามารถจัดการวางแผนการทำงานได้ว่า ต้องทำงานอีกนานแค่ไหน จึงจะอยู่ในจุดที่เพียงพอ โดยมีแนวทางจัดการ ดังนี้

 

1.มีใจรักในงานที่ทำ มีวินัยและมีความอดทนมากพอ โดยทำการวางแผนและกำหนดกลยุทธ์เพื่อหารายได้จากงานที่ทำให้มีรายได้สม่ำเสมอและมาจากหลายแหล่งรายได้ เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงของแหล่งรายได้ นอกจากนี้ ควรวางแผนทำงบประมาณล่วงหน้า ให้มีรายได้มากกว่าค่าใช้จ่ายในทุกเดือน

 

2.ทำบัญชีแยกค่าใช้จ่ายระหว่างงาน และส่วนตัวออกมาให้ชัดเจน เพื่อให้ทราบว่า ผลกำไรจากการทำงาน คิดเป็นเท่าไหร่ (Profit margin) หากมีกำไรน้อยเกินไป อาจกลับไปพิจารณาราคาที่เหมาะสมในการรับงาน หรือลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นของงานลงมา และในกรณีของกลุ่มอาชีพอิสระที่มีความไม่แน่นอนเรื่องรายได้สูง ก็ควรจะลดค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่ไม่จำเป็น เพื่อเป็นการลดภาระในช่วงที่ขาดรายได้จากงานที่ทำ

 

3.มีเงินเก็บไว้ในสินทรัพย์สภาพคล่อง เพื่อเป็นเงินสำรองฉุกเฉินในยามที่รายได้ไม่เพียงพอ หรือไม่มีรายได้ เช่น บัญชีเงินฝากธนาคาร กองทุนตลาดเงิน หรือกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น

สภาพคล่องสำรอง = ค่าใช้จ่ายจำเป็นต่อเดือน x ( 6 ถึง 12 เดือน)

 

4.บริหารความเสี่ยงในเรื่องความคุ้มครองสุขภาพ โรคร้ายแรง และการขาดแคลนรายได้จากการทุพพลภาพ หรือเสียชีวิตก่อนวัยอันควร โดยเลือกทำประกันให้เพียงพอและเหมาะสมกับรายได้ ตามหลักการของการวางแผนการเงินที่ดี

 

5.เมื่อมีรายได้เข้ามา ทำการแบ่งเงิน ดังนี้

- ค่าใช้จ่ายในงานที่ทำ เพื่อเก็บไว้เป็นทุนสำรองในการทำงานครั้งถัดไป

- ค่าใช้จ่ายส่วนตัว แบ่งออกมาเป็นค่าใช้จ่ายคงที่ และผันแปร

- สร้างวินัยเก็บเงินออม และลงทุนอย่างน้อย 10 – 30 % ของรายได้ เพื่อเป็นการตอบโจทย์ลงทุนตามเป้าของตัวเองที่ต้องการ โดยแบ่งเป้าหมายตามระยะเวลา ดังนี้

 

ระยะสั้น ในช่วง 1-3 ปี เช่น เตรียมเงินดาวน์รถยนต์ ดาวน์บ้าน หรือเพื่อการท่องเที่ยว

ระยะกลางในช่วง 3-7 ปี เช่น ทุนการศึกษา หรือเพื่อซื้อรถยนต์

ระยะยาว ตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป เช่น เงินที่จะใช้ยามเกษียณ
 

6.เลือกก่อหนี้ที่จำเป็น และไม่ควรก่อหนี้ในสัดส่วนที่สูงเกินกว่า 50 % ของทรัพย์สินทั้งหมดที่มีอยู่ และภาระค่าผ่อนชำระก็ไม่ควรเกิน 30 % ของรายได้เฉลี่ยประกอบอาชีพอิสระอีกนานแค่ไหน จึงจะเพียงพอ ?

 

ประกอบอาชีพอิสระอีกนานแค่ไหน จึงจะเพียงพอ ?

 

หากเราได้มีการวางแผนการเงินที่ดีตั้งแต่วันนี้ โดยมีการตั้งเป้าหมายทางการเงินที่ต้องการอย่างชัดเจน มีวินัยในการเก็บออมและลงทุนอย่างสม่ำเสมอ และมีการลงทุนได้อย่างเหมาะสม ก็จะทำให้รู้ว่า เราต้องทำงานหาเงินอีกเท่าไหร่เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการจากแผนการเงิน และสามารถคาดการณ์ได้ว่า เมื่อไหร่ที่เราจะได้บรรลุครบตามทุกเป้าหมายที่ต้องการ จึงจะเรียกได้ว่าอยู่ในจุดที่เพียงพอสำหรับตัวเราเอง

 

นอกจากเรื่องแผนการเงินแล้ว ก็เป็นคำถามในใจเของเราเองว่า ...ยังมีใจและพลังแรงกายที่จะประกอบอาชีพนี้อยู่หรือไม่ หากยังมีใจและมีแรง ก็จงสู้ในการเป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระที่เราเป็นนายของตนเองกันต่อไปค่ะ

 

 

โดย รัตนพร เนาวปฎิเวช นักวางแผนการเงิน CFP®