ปลัดแรงงาน ‘ย้ำ’ พร้อมขจัดการเลือกปฏิบัติการจ้างงาน

19 เม.ย. 2559 | 11:47 น.
Breaking-News ปลัด.แรงงาน เปิดโครงการสัมมนาไตรภาคีเพื่ อพิจารณาการให้สัตยาบันอนุสั ญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 111 ณ โรงแรม ปริ๊นตั้น พาร์ค สวีท ย้ำ พร้อมดำเนินการขจัดการเลือกปฏิ บัติเรื่องการจ้ างงานและการประกอบอาชีพ บนพื้นฐานความเท่าเทียมทางสังคม เชื้อชาติ สีผิว เพศ ศาสนา และความคิดเห็นทางการเมือง

หม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน ได้กล่าวเปิดโครงการสั มมนาไตรภาคีเพื่อพิจารณาการให้ สัตยาบันอนุสัญญาองค์ การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 111 ว่าด้วยการเลือกปฏิบัติในการจ้ างงานและอาชีพ ค.ศ.1958 ณ ห้องดินแดง ชั้น 4 โรงแรม ปริ๊นตั้น พาร์ค สวีท ถนนมิตรไมตรี ดินแดง กรุงเทพมหานคร ในวันนี้ (19 เมษายน 2559) ว่า “อนุสัญญาฉบับนี้เป็นหนึ่งในอนุ สัญญาหลักขององค์การแรงงานระหว่ างประเทศ ซึ่งประเทศไทยได้ดำเนินการศึ กษาและเตรียมการในเรื่องนี้มาตั ้งแต่ปี พ.ศ.2557 ตลอดเวลามาถึงปัจจุบันทางองค์ การแรงงานระหว่างประเทศได้เน้ นย้ำให้สมาชิกดำเนินการคุ้ มครองแรงงานให้เป็ นไปตามมาตรฐานสากลและปฏิบัติ ตามหลักการที่เป็นพื้นฐาน มาตรฐานที่กำหนดไว้ตามอนุสั ญญาต่างๆ ซึ่งรัฐบาลของนานาประเทศ ได้กำหนดปฏิญญาว่าด้วยหลั กการและสิทธิขั้นพื้นฐาน   ในการทำงาน (ILO Declaration on Fundamental Principles and Rights at Work) ครอบคลุมทั้งหมด 4 ประเด็น คือ 1.เสรีภาพในการสมาคมและการรั บรองที่มีผลจริงจังสำหรับสิทธิ ในการต่อรองรวม 2.การขจัดการใช้แรงงานบังคั บในทุกรูปแบบ 3.การยกเลิกอย่างได้ผลต่อการใช้ แรงงานเด็ก 4.การขจัดการเลือกปฏิบัติในการจ ้างงานและประกอบอาชีพ

เป็นที่ทราบกันดีว่ าประเทศไทยโดยกระทรวงแรงงาน มีความมุ่งที่จะปฏิบัติตามภารกิ จ    ให้สอดคล้องกับหลักการและสิทธิ ขั้นพื้นฐานในการทำงาน และมาตรฐานสากลที่องค์ การแรงงานระหว่างประเทศได้ กำหนดไว้ กระทรวงแรงงานได้มีการปรับปรุ งกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับหลั กการและสิทธิขั้นพื้นฐาน
ในการทำงาน และได้นำมาบังคับใช้แล้ว ปัจจุบันนี้ประเทศไทยได้รับอนุ สัญญาขององค์การแรงงานระหว่างปร ะเทศ 16 ฉบับ โดยเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2559 กระทรวงแรงงานมีโอกาสเข้าร่ วมประชุม ILO ที่นครเจนีวา และได้นำสัตยาบันอนุสัญญา ฉบับที่ 187 ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกั บการส่งเสริมความปลอดภัยและอาชี วอนามัย ค.ศ.2006 (พ.ศ.2549) ไปยื่นต่อ Mr. Guy Ryder ผู้อำนวยการใหญ่สำนั กงานแรงงานระหว่างประเทศ เพื่อจดทะเบียนการให้สัตยาบั นอนุสัญญา ฉบับที่ 187 ซึ่งถือว่าเป็นอนุสัญญาฉบับล่ าสุดที่ประเทศไทยได้ให้สัตยาบัน

ในเดือนมิถุนายน 2559 ประเทศไทยโดย พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จะเดินทางไปร่วมประชุมใหญ่ ประจำปีองค์การแรงงานระหว่ างประเทศ (ILO) ณ นครเจนีวา    คาดว่ากระทรวงแรงงานจะนำสั ตยาบันอนุสัญญาว่าด้ วยแรงงานทางทะเล ค.ศ.2006 (พ.ศ.2549) ไปยื่น  จดทะเบียนสัตยาบันอนุสัญญาต่อ Mr. Guy Ryder ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานแรงงานร ะหว่างประเทศ      ซึ่งประเทศไทยได้ ออกพระราชบัญญัติแรงงานทางทะเล พ.ศ.2558 พร้อมกฎหมายลูก 34 ฉบับ โดยมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วั นที่ 5 เมษายน 2559 เป็นต้นมา

 

การสัมมนาไตรภาคีในวันนี้ กระทรวงแรงงานถือว่าเป็นขั้ นตอนสำคัญเพื่อแสวงหาโอกาส   ที่จะนำไปสู่การให้สัตยาบันอนุ สัญญาองค์การแรงงานระหว่ างประเทศ ฉบับที่ 111 ซึ่งเป็น 1 ใน 8 อนุสัญญาหลัก เพื่อเป็นการเน้นย้ำว่าเราพร้ อมดำเนินการขจัดการเลือกปฏิบัติ เรื่องการจ้างงานและ การประกอบอ าชีพ บนพื้นฐานทางสังคม เชื้อชาติ สีผิว เพศ ศาสนา และความคิดเห็นทางการเมือง เพื่อส่งเสริมความเท่าเที ยมในโอกาสและการปฏิบัติในการจ้ างงานและการประกอบอาชีพ” ปลัดแรงงาน กล่าวในท้ายที่สุด