วันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐอเมริกา จำนวน 9 คนในนาม คณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของวุฒิสภา ได้ออก แถลงการณ์มติแสดงจุดยืนสนับสนุนขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยในประเทศไทย ที่ผู้ชุมนุมต้องเผชิญกับความรุนแรงและการควบคุมจากรัฐบาล กลุ่มส.ว.สหรัฐเรียกร้องให้ทุกฝ่ายปฏิเสธการมีส่วนในความรุนแรงและการคุกคามที่ไม่จำเป็น ขอให้คำนึงถึงสิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตย และการรักษากฎหมายเพื่อความสุขสงบของบ้านเมือง
นอกจากนี้ยังระบุว่าการเคลื่อนไหวของเยาวชนนักศึกษาและราษฎรเป็นความกล้าหาญที่ควรได้รับความเคารพ
ผู้ที่ร่วมลงนามในแถลงการณ์นามคณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแห่งวุฒิสภาสหรัฐอเมริกา ประกอบด้วยนายบ็อบ เมเนนเดซ (สังกัดพรรคเดโมแครตจากนิวเจอร์ซี) นายดิก เดอร์บิน (สังกัดพรรคเดโมแครตจากรัฐอิลลินอยส์) ทั้งคู่เป็นกรรมาธิการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของวุฒิสภา นอกนั้นยังมีส.ว.จากพรรคเดโมแครตอีก 7 คน ได้แก่ ส.ว. ลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ ชาวอเมริกันเชื้อสายไทย จากรัฐอิลลินอยส์ ส.ว.เบ็น คาร์ดิน จากรัฐแมรีแลนด์ ส.ว.ไดแอน เฟนสไตน์ จากรัฐแคลิฟอร์เนีย ส.ว. คริส คูนส์ จากรัฐเดลาแวร์ ส.ว.เอ็ด มาร์คีย์ จากรัฐแมสซาชูเสตส์ ส.ว.จีน ชาฮีน จากรัฐนิวแฮมเชียร์ และส.ว.คริส เมอร์ฟี จากรัฐคอนเนตทิคัต
ทั้งหมดมีมติแสดงจุดยืนสนับสนุนขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยในประเทศไทย ซึ่งต้องเผชิญกับความรุนแรงและการควบคุมจากสถาบันและรัฐบาล โดยย้ำพันธกรณีของสหรัฐต่อสิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตย และหลักนิติธรรมในประเทศไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เกาะติด สถานการณ์การชุมนุม ม็อบคณะราษฎร 4 ธ.ค.63
ควันหลง คดีบ้านพักทหาร • ศาลแจ้งจับแกนนำราษฎร • สอบรับประโยชน์เกิน 3 พัน
ศาลรธน.ไม่รอช้า แจ้งจับ “แกนนำราษฎร”ดูหมิ่น โทษคุก 1-7 ปี
นายเมเนนเดซระบุในตอนหนึ่งว่า ในเวลาที่ประชาธิปไตยถูกคุกคามจากหลากหลายด้าน เป็นเรื่องสำคัญที่วุฒิสภาสหรัฐจะต้องยืนอยู่เคียงข้างขบวนการประชาธิปไตยในประเทศไทย กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องให้ปฏิรูป ไม่ได้เรียกร้องการปฏิวัติ พวกเขาเพียงแต่เรียกร้องการเปลี่ยนแปลงตามวิถีประชาธิปไตยในระบบการเมืองของประเทศ เพื่อเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุม เพื่อให้ประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมนานาชาติที่เป็นประชาธิปไตย
"ด้วยมติดังกล่าว เรากำลังส่งข้อความชัดเจนถึงการเคียงบ่าเคียงไหล่สนับสนุนเสรีภาพในการแสดงออก และเสรีภาพในการชุมนุมในประเทศไทย และขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายปฏิเสธมีส่วนในการใช้ความรุนแรงและการคุกคามโดยไม่จำเป็น สหรัฐอเมริกาจำเป็นต้องทำให้คนไทยและประชาคมนานาชาติเข้าใจชัดเจนว่า ความสัมพันธ์และการเป็นหุ้นส่วนอย่างยาวนานกับประเทศไทยของสหรัฐ จะยังมีอย่างต่อเนื่องบนพื้นฐานของผลประโยชน์ อุดมการณ์ ความเคารพในประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนพื้นฐาน และหลักนิติธรรมที่มีร่วมกัน" นายเมเนนเดซกล่าว
ด้านนายเดอร์บินระบุว่า ประเทศไทยเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐมาโดยตลอด หนึ่งในนั้นคือการลุกขึ้นช่วยเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาดิ้นรนต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย วันนี้โลกกำลังจับตามมองในช่วงเวลาที่คนไทยลุกขึ้นมาเรียกร้องความปรารถนาต่อประชาธิปไตย ที่คนอเมริกันเองก็ยึดถือและให้ความสำคัญอย่างสูงสุด
"ขณะที่ประเด็นการถกเถียงของคนไทยเป็นเรื่องการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ อนาคตทางการเมืองของพวกเขาควรตั้งอยู่บนการเจรจาอย่างสันติ ปราศจากความรุนแรง การคุกคาม หรือการดำเนินคดี โดยเฉพาะเสียงของนักศึกษาไทยและเยาวชนผู้กล้าหาญนั้น สมควรได้รับการรับฟังอย่างใส่ใจและด้วยความเคารพ" นายเดอร์บินกล่าว
นางดักเวิร์ธ ส.ว.ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน กล่าวว่า ในฐานะคนอเมริกันเชื้อสายไทยที่ต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิการประท้วงอย่างสันตินั้น เธอเห็นว่า ทั้งความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและไทยที่มีมาอย่างยาวนานและแน่นแฟ้น รวมถึงสิทธิประชาธิปไตยของปัจเจกชนที่แบ่งแยกมิได้ ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องยึดมั่นและปกป้องรักษาไว้
"ประเทศไทยเป็นหุ้นส่วนที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ทั้งด้านความมั่นคงและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ และคนไทยเองก็ภูมิใจในประวัติศาสตร์การปฏิรูปประชาธิปไตยภายในประเทศ ดิฉันขอเรียกร้องให้ผู้นำไทยโปรดจงฟังเสียงเรียกร้องของประชาชน และเคารพในหลักการของประชาธิปไตยที่เป็นหัวใจของรัฐบาลที่ทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างขึ้นมา" นางดักเวิร์ธระบุ
เนื้อหาของมติที่ 9 ส.ว.สหรัฐ นำเสนอต่อคณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแห่งวุฒิสภาสหรัฐอเมริกา