พาณิชย์ คาด "เงินเฟ้อ” ปี 64 ขยายตัว1.2%

04 ธ.ค. 2563 | 08:40 น.

พาณิชย์ เผย “เงินเฟ้อ” หดตัวต่ำสุดในรอบ 9 เดือนของปีนี้ หลังราคาสินค้ากลุ่มอาหารสดปรับตัวสูงขึ้น คาดเงินเฟ้อทั้งปี 63 จะติดลบ 0.87% ส่วนปี 64 ตั้งเป้าบวก 1.2% มีค่าเฉลี่ย 0.7-1.7%  

พิมพ์ชนก วอนขอพร

         

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนพ.ย.2563 ลดลง 0.04% เมื่อเทียบกับเดือนต.ค.2563 และลดลง 0.41% เมื่อเทียบกับเดือนพ.ย.2562 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และหดตัวน้อยสุดในรอบ 9 เดือนของปีนี้ แสดงว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวต่อเนื่อง ตามมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ โดยเฉพาะเราเที่ยวด้วยกัน และคนละครึ่ง ที่มีผลช่วยได้มาก ส่วนเงินเฟ้อ 11 เดือนของปี 2563 (ม.ค.-พ.ย.) ลดลง 0.90% และเงินเฟ้อพื้นฐาน ที่หักสินค้าอาหารสดและพลังงานออก เพิ่มขึ้น 0.01% เมื่อเทียบกับเดือนต.ค.2563 และเพิ่มขึ้น 0.18% เมื่อเทียบกับเดือนพ.ย.2562 เฉลี่ย 11 เดือน เพิ่มขึ้น 0.29%

         

สาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อลดลงในอัตราที่ดีขึ้น มาจากการสูงขึ้นของสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 1.70% โดยสินค้าสำคัญที่สูงขึ้น เช่น เนื้อสัตว์ เป็ด ไก่และสัตว์น้ำ เพิ่ม 3.85% ไข่และผลิตภัณฑ์นม เพิ่ม 0.18% ผักสด เพิ่ม 17.28% ผลไม้สด เพิ่ม 1% เครื่องประกอบอาหาร เพิ่ม 2.46% เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เพิ่ม 0.14% อาหารบริโภคในบ้าน เพิ่ม 0.32% นอกบ้าน เพิ่ม 0.70% แต่ข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง ลด 3.39%

         

ขณะที่สินค้าหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ลดลง 1.64% มีสินค้าสำคัญที่เป็นตัวฉุดหลัก คือ น้ำมันเชื้อเพลิง ลด 13.30% เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า ลด 0.18% เคหสถาน ลด 0.15% การสื่อสาร ลด 0.02% บันเทิง การอ่าน การศึกษา ลด 0.24% แต่ค่าโดยสารสาธารณะ ไม่เปลี่ยนแปลง การตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล เพิ่ม 0.04% ยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ เพิ่ม 0.08%

 

ทั้งนี้ ในเดือนพ.ย.2563 มีสินค้าที่ราคาสูงขึ้น 215 รายการ เช่น เนื้อสุกร กระดูกซี่โครงหมู มะเขือ พริกสด ต้นหอม กะหล่ำปลี ขิง กล้วยน้ำว้า และข้าวราดแกง เป็นต้น มีสินค้าไม่เปลี่ยนแปลง 68 รายการ และลดลง 139 รายการ เช่น แก๊สโซฮอล์ 91 และ 95 น้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน 95 แก๊สโซฮอลล์ E20 ก๊าซหุงต้ม ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว และมะม่วง เป็นต้น  

         

พาณิชย์ คาด "เงินเฟ้อ” ปี 64 ขยายตัว1.2%

 

“เงินเฟ้อเดือนพ.ย.2563 ติดลบน้อยลง เพราะสินค้ากลุ่มอาหารสด โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ ปรับตัวสูงขึ้นตามความต้องการทั้งในและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับปีที่แล้ว ฐานราคาต่ำ ทำให้เดือนนี้ราคาเลยขึ้นสูง ขณะที่กลุ่มพลังงานยังคงหดตัว โดยหดตัวน้อยสุดในรอบ 9 เดือน แต่น้ำมันก็ยังคงเป็นตัวฉุดให้เงินเฟ้ออยู่ในแดนลบ และคาดว่าจะเริ่มขยับขึ้น ส่วนสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป ราคายังทรงตัวและลดลง จึงไม่ได้เป็นแรงกดดันต่อเงินเฟ้อ”น.ส.พิมพ์ชนกกล่าว

         

น.ส.พิมพ์ชนกกล่าวว่า เงินเฟ้อทั้งปี 2563 คาดว่า จะติดลบที่ 0.87% บวกลบไม่เกิน 0.02% ซึ่งเป็นไปตามที่คาดการณ์ว่าจะติดลบ 0.7% ถึงลบ 1.5% ส่วนเงินเฟ้อปี 2564 ประเมินว่าจะกลับมาเป็นบวกที่ 1.2% มีช่วงคาดการณ์อยู่ที่บวก 0.7-1.7% ภายใต้สมมติฐาน อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) เติบโต 3.5-4.5% ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย 40-50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยน 30-32 บาทต่อเหรียญสหรัฐ

 

สำหรับปัจจัยสนับสนุนเงินเฟ้อให้กลับมาเป็นบวก มาจากความต้องการบริโภคสินค้าที่เพิ่มขึ้น จากการขยายตัวของเศรษฐกิจและการค้าโลก รัฐบาลยังคงมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอย่างต่อเนื่อง และฐานปี 2563 อยู่ในระดับต่ำ จะทำให้เงินเฟ้อในปี 2564 ขยับเป็นบวกได้สูงกว่าปกติ