สืบเนื่องจากกรณีมีผู้ป่วยโควิด-19 กลับจากจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา โดยการลักลอบเข้าไทย เดือนพฤศจิกายน 2563 ทำให้ต้องมีการติดตามบุคคลที่มีความเสี่ยง โดยเฉพาะ ผู้สัมผัสความเสี่ยงสูง มาทำการตรวจหาเชื้อและกักตัว
ต่อประเด็นนี้ เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 ได้ทำอินโฟกราฟฟิกโดยระบุว่า ใคร ? คือบุคคลที่ถือเป็น “ผู้สัมผัสความเสี่ยงสูง”
1. อยู่บ้านเดียวกันกับผู้ป่วย
2. พูดคุยกับผู้ป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าทั้งคู่ไม่สวมแมสก์ และพูดคุยกันเกิน 5 นาที
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ่วม! ทั่วโลกติดโควิด-19 ทะลุ 65.4 ล้านราย เพิ่มขึ้น 6.2 แสนราย
"หมอธีระ"ชี้โควิด-19 ทะลุ 65 ล้านคน เคสลักลอบเข้าเมือง ทำกิจกรรมเสี่ยงหลากหลาย
ผู้ว่าฯประกาศชัดยังไม่มีหลักฐานการแพร่กระจายเชื้อ "โควิดเชียงใหม่"
"โควิดเชียงใหม่"ยังวุ่น!เตือนผู้ไปสถานที่เสี่ยงให้สังเกตอาการ14วัน
3. ถูกผู้ป่วยไอจามรด
4. อยู่ในสถานที่แออัดร่วมกับผู้ป่วย ในระยะ 1 เมตร เกิน 15 นาที เช่น เครื่องบิน แต่โดยส่วนมากทุกคนสวมแมสก์ จึงมีความเสี่ยงต่ำ แต่ถ้าไม่สวมแมสก์ผู้นั่ง 2 แถวหน้า และ 2 แถวหลัง ถือเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง , รถตู้โดยสาร ถ้าโดยสารเกิน 15 นาที ถือเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง เป็นต้น
ส่วนความคืบหน้าสถานการณ์ที่จังหวัดเชียงราย นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า จากการตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายที่ (CR) 7 เมื่อบ่ายวันที่ 3 ธันวาคม 2563 พบผู้ติดเชื้อราย (cr)7 เป็นสาวประเภทสอง อายุ 28 ปี มีประวัติคลุกคลีกับสาวพะเยา ที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่ลักลอบเข้าเมืองจากประเทศเมียนมา ในก่อนหน้านี้ และเข้าเที่ยวงานฟาร์มเฟสติวัลด้วยเช่นเดียวกัน
สำหรับรายนี้ เป็นเพื่อนที่ให้ที่พักแก่หญิงที่ติดเชื้อโควิด-19 ของจังหวัดพะเยา และเพื่อนหญิงอีกจำนวน 3 คน ที่ลักลอบเข้าเมืองจากประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา โดยไปเที่ยวงานฟาร์มเฟสติวัล ออนเดอะฮิล 2020 ที่สิงห์ปาร์คเชียงราย ในคืนวันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 ด้วย จนถึงเวลา 23.00 น. และไปเที่ยวต่อยังสถานบันเทิงในตัวเมืองเชียงราย จากนั้นในเวลาเที่ยงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 ได้เดินทางไปยังจังหวัดเชียงใหม่ด้วยรถยนต์ส่วนตัวร่วมกับกลุ่มเพื่อนดังกล่าว แล้วเดินทางกลับเชียงรายด้วยรถโดยสารประจำทางในวันที่ 1 ธันวาคม 2563 และช่วงเย็นยังคงไปทำงานที่ร้านอาหารกึ่งผับตามปกติ
ต่อมาเช้าวันที่ 2 ธันวาคม 2563 ได้ทราบข่าวว่าเพื่อนในกลุ่มติดเชื้อโควิด-19 จึงไปขอรับการตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ผลพบเชื้อโควิด-19 ซึ่งขณะนี้ ได้ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์เรียบร้อยแล้ว
ขณะนี้จังหวัดเชียงรายมีผู้เข้าเกณฑ์สงสัยอยู่ใน Local quarantine จำนวน 84 ราย และได้มีการตรวจหาเชื้อในกลุ่มผู้เดินทางเข้ามาจากประเทศเมียนมาอย่างต่อเนื่อง โดยให้คนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศเมียนมา ที่ประสงค์จะกลับเข้าประเทศให้ลงทะเบียนกลับเข้ามาตามช่องทางปกติ เพื่อคัดกรองตรวจโรคตามกระบวนการสาธารณสุข นอกจากนี้ ยังให้ผู้ที่เคยลักลอบเข้ามาในประเทศในห้วงระยะเวลา 1 เดือนรีบไปรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อตรวจโรคที่อาจติดตัวมาด้วย
นายแพทย์ ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า นับตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นมา ขณะนี้มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้วจำนวน 7 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ทั้ง 7 ราย โดยกรณีผู้ติดเชื้อรายที่ 1-3 นั้น มีผู้สัมผัสเกี่ยวข้องรวมจำนวนประมาณ 40 คน และสัมผัสเสี่ยงสูง 17 คน ซึ่งได้ติดตามตัวมาได้ครบทั้งหมดแล้ว ผลการตรวจหาเชื้อพบว่าส่วนใหญ่เป็นลบทั้งหมด
ส่วนรายที่ 4-6 พบโดยการตรวจหาเชื้อโดยรถชีวนิรภัย ที่จุดตรวจสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 2 อำเภอแม่สาย จึงไม่มีไทม์ไลน์ ส่วนรายล่าสุดนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค
ด้
านนายแพทย์ ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ กล่าวด้วยว่า ที่โรงพยาบาลฯ มีห้องรักษาแยกผู้ป่วยโควิด-19 ออกไปต่างหากจากผู้ป่วยในอย่างชัดเจน ซึ่งมั่นใจในความปลอดภัยได้จึงไม่ต้องกังวลใด ๆ แต่สิ่งที่กังวลมากกว่าคือ การที่มีผู้ลักลอบเข้ามาแล้วไม่แสดงตน ซึ่งไม่รู้ว่ามีมากหรือน้อยเพียงใดหรือไม่ จึงขอความร่วมมือให้บุคคลในกลุ่มนี้รีบไปแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับการตรวจโรคและสอบสวนรายละเอียดโดยด่วน
อย่างไรก็ตาม จังหวัดเชียงรายยังคงยืนยันและมั่นใจว่า ผู้ที่ไปเที่ยวงานฟาร์มเฟสติวัล ออนเดอะฮิล 2020 ในสิงห์ปาร์ค ยังถือว่ามีความเสี่ยงต่ำมากที่จะติดเชื้อโควิด-19 และในวันที่ 5 ธันวาคม 2563 นี้ เจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจบุคคลที่สิงห์ปาร์ค และหอประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงราย ผู้ที่มีความกังวลใจหรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง สามารถไปขอรับการตรวจโรคได้