"ทรีนิตี้" แนะลดน้ำหนักลงทุนหุ้นไทยเหลือ 5%

02 ธ.ค. 2563 | 05:22 น.

"ทรีนีตี้” แนะ ใช้จังหวะครึ่งแรกของเดือน ธ.ค. ลดน้ำหนักลงทุนหุ้นไทยเหลือ 5% จากเดือนก่อนที่ให้น้ำหนักไว้ที่ 15% เหตุ มูลค่าอยู่ในระดับสูง และช่วงปลายปีกองทุนขนาดใหญ่ของโลกมีโอกาสปรับพอร์ตเข้าสู่ตราสารหนี้มากขึ้น แนะ นักลงทุนระยะกลาง-ยาว รอซื้อหุ้นในอีก 1-3 เดือนข้างหน้า เชื่อ เป็นจังหวะช้อปหุ้นถูกและดี  

2 ธันวาคม 2563 นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางการลงทุนเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของปีว่า ทรีนีตี้ได้แนะนำปรับลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยลงเหลือ 5% จากเดือนก่อนที่ให้น้ำหนักการลงทุนไว้ 15% และเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลกเป็น 15% จากที่เดือนก่อนไม่แนะนำ และให้เพิ่มสัดส่วนการถือครองเงินสดเป็น 40% จาก 35%

 

ส่วนการลงทุนในทองคำและบิตคอยน์ ให้น้ำหนักเท่าเดิมที่ 10% ซึ่งในกรณีที่ราคาทองคำลดลงต่ำกว่า 1,800 เหรียญฯ/ออนซ์ แนะนำให้นักลงทุนที่มีสัดส่วนการลงทุนอยู่ในทองคำในระดับต่ำ เพิ่มทองคำเข้าพอร์ตได้ เพราะเชื่อว่า ในภาวะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรแท้จริงยังอยู่ในระดับต่ำนั้น ทองคำยังคงมีความน่าสนใจ และยังสามารถกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมได้อีกด้วย    

 

“เหตุผลที่ปรับลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นไทยลงเหลือ 5% เพราะต้องยอมรับว่า หุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อนแรงมากในเดือน พ.ย.กว่า 20% นำโดยหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มวัฏจักร ตามความคาดหวังของวัคซีนต้าน COVID-19 เป็นสำคัญ มองว่า เดือน ธ.ค. หุ้นไทยจะชะลอความร้อนแรงลง ประกอบกับการไหลเข้ามาของเงินทุนต่างชาติที่น่าจะเริ่มลดลง จากแพ็กเกจดูแลค่าเงินบาทของธปท.ที่เตรียมออกมา และช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของปีที่เป็นเทศกาลวันหยุดยาว”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หุ้นไทยเปิดภาคเช้าบวก 2 จุด

ราคาทองวันนี้ (2 ธ.ค.) พุ่ง 250 บาท ทองคำแท่งขายออก 25,950 บาท

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวก รับความหวังสหรัฐออกมาตรการกระตุ้นศก.

 

นอกจากนี้อาจเห็นการปรับพอร์ตของกองทุนขนาดใหญ่ของโลกในช่วงปลายปีเพื่อล็อคกำไรจากหุ้น โดยการโยกเงินเข้ามาลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้นแทน หลังจากที่หุ้นทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อนแรง ด้วยเหตุนี้ ยังไม่แนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในช่วงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนระยะกลางและยาว คาดในช่วง 1-3 เดือนข้างหน้าดัชนีมีโอกาสย่อตัวลงมาซึ่งจะเป็นโอกาสในการเลือกหุ้นเข้าพอร์ตได้ดีกว่า

 

นายณัฐชาต กล่าวว่า ประเมินกรอบแนวต้านแรกของดัชนีหุ้นไทยในเดือน ธ.ค.ที่ 1,450-1,460 จุด และแนวต้านสำคัญที่ 1,500 จุด ขณะที่แนวรับแรกประเมินที่ 1,400 จุด และแนวรับสำคัญที่ 1,330 -1,350 จุด ซึ่งเป็นแนวรับที่สามารถเข้าซื้อหุ้นได้    

 

 

สำหรับหุ้นแนะนำในเดือน ธ.ค.หากต้องการเข้าซื้อหุ้นในช่วงนี้จริง มองไปยังหุ้นเติบโตหรือ Growth stock ที่อยู่ในช่วงพักฐาน โดยมองว่าสภาพแวดล้อมต่างๆในปัจจุบันยังคงสนับสนุนการปรับตัวของหุ้นกลุ่มนี้ในช่วงถัดไปได้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจที่ยังคงมีอัตราการเติบโตต่ำหรือติดลบ รวมไปถึงระดับเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่อยู่ในระดับต่ำหรือติดลบเช่นกัน มองตัวหุ้นที่น่าสนใจในกลุ่มนี้ ได้แก่ KCE และ STGT เป็นต้น