หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 2 ธันวาคม 2563
- ราคาน้ำมันดิบปรับลด ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างกลุ่มโอเปกพลัส เกี่ยวกับนโยบายการผลิตน้ำมัน หลังการประชุมได้ถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 3 ธ.ค. โดยรัสเซียมีท่าทีสนับสนุนให้เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอย่างค่อยเป็นค่อยไปในเดือน ม.ค.64 รวมถึงคาซัคสถานที่คัดค้านการขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิต
- สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) เผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 4.1 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 494 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่ผ่านมา สวนทางจากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล
+ ตลาดยังคงมีความหวังกับเศรฐกิจโลกที่อาจปรับตัวดีขึ้น หลังสหรัฐฯ เตรียมหารือเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินกว่า 9 แสนล้านดอลลาร์ รวมถึงความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19
ราคน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในมาเลเซียยังคงพุ่งสูง ส่งผลให้การเดินข้ามเขตแดนระหว่างมาเลเซียและสิงคโปร์ถูกจำกัด ประกอบกับปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคยังคงถูกกดดันจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในหลายประเทศ
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (1 ธ.ค.) หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ได้ตัดสินใจเลื่อนการประชุม เนื่องจากมีความขัดแย้งกันเกี่ยวกับนโยบายการผลิตน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 79 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 44.55 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. 2563
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 46 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 47.42 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. 2563