หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 1 ธันวาคม 2563
ราคาน้ำมันดิบปรับลด เนื่องจากกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร หรือโอเปกพลัส เลื่อนการประชุมจากวันที่ 30 พ.ย. ถึง วันที่ 1 ธ.ค. ออกไปเป็นวันที่ 3 ธ.ค. หลังยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงคงระดับการลดกำลังการผลิตที่ 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ออกไปเพิ่มเติมอีกราว 3-6 เดือนได้
- นักวิเคราะห์และนักเศรษฐศาสตร์ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปี 2564 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 49.76 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ลงมาอยู่ที่ระดับ 49.35 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หลังยังเผชิญความไม่แน่นอนของการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกพลัส และวัคซีนไวรัสโควิด-19
- บริษัทน้ำมันแห่งชาติลิเบีย ประกาศที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบไปแตะระดับ 1.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังสามารถกลับมาเปิดดำเนินการผลิตได้ โดยมีการพูดคุยกับบริษัท Total ซึ่งจะสนับสนุนการเพิ่มกำลังการผลิต โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าลิเบียจะสามารถผลิตน้ำมันดิบได้สูงสุดที่ระดับ 1.25-1.30 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ราคน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากคาดว่าปริมาณน้ำมันเบนซินในภูมิภาคจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น หลังโรงกลั่นในจีนและอินเดียเพิ่มกำลังการผลิต ท่ามกลางความหวังความคืบหน้าของการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางอุปทานน้ำมันดีเซลที่ยังตึงตัว
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในสัปดาห์นี้ รวมทั้งรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 19 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 45.34 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 59 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 47.59 ดอลลาร์/บาร์เรล