ไพรเวทฟันด์ฮ่องกง ทุ่ม 8 พันล้าน ผุดมิกซ์ยูสเกาะช้าง

        แม้จะเกิดวิกฤติ โควิด-19 แต่ทาง นอร์คอล เวนเจอร์ แคปิทัล กรุ๊ป ((Norcal Venture Capital Group Limited: NVC) ซึ่งเป็นกองทุนส่วนบุคคลหรือไพรเวท ฟันด์ จากฮ่องกง มองเห็นโอกาสเดินหน้าลงทุนในไทย

        โดยได้ลงทุนโครงการมิกซ์ยูส “อควาเรียส เรสซิเดนเซส แอนด์ รีสอร์ท” ที่เกาะช้าง มูลค่าการลงทุนกว่า 250 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ(ราว 8 พันล้านบาท)ภายใต้การลงทุนของ อะควาเรียส อินเตอร์เนชั่นแนล ฮอสพิทอล ลิตี้ ดีเวลลอปเมนท์ (AQI) ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการบริการระหว่างประเทศและการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงเป็นที่ปรึกษา มีสำนักงานตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ

            นายเอ็ดเวิร์ด ค็อกหว่าฉี กรรมการผู้จัดการ บริษัท นอร์คอล เวนเจอร์ แคปิทัล กรุ๊ป (ประเทศไทย) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า โควิด-19 ได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คน ลำดับความสำคัญ และสภาพแวดล้อม โดยสิ่งที่ผู้คนให้ความสำคัญที่สุดและเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับพวกเขาคือ “การเดินทาง” ดังนั้นการลงทุนของเราจึงไม่ใช่การลงทุนที่มีความเสี่ยง เรามีประสบการณ์จากวิกฤตเอเชียก่อนหน้านี้และสถานการณ์ปัจจุบัน ความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของโควิด -19 ได้รับผลกระทบไปทั่วโลกไม่ใช่ภูมิภาคเดียวหรือในประเทศ  เราจึงลองใช้วิกฤติครั้งนี้ในการเปลี่ยนความเสี่ยงให้กลายเป็นโอกาส

        ด้วยการสนับสนุนทางการเงินที่แข็งแกร่งจากสำนักงานใหญ่และพันธมิตรของเรา การลงทุนมูลค่า 250 ล้านดอลลาร์ของ AQIในพื้นที่กว่า 145 ไร่บนเกาะช้าง จะมี 3 เฟส ได้แก่ ลักชัวรี พูลวิลล่า 23 หลัง  ,คอนโดมิเนียมแบบโลว์ไรส์ 99 ห้อง และโรงแรม 5 ดาว ชื่อ โรงแรมเดอะเจดีย์ อควาเรียส เกาะช้าง 200 ห้อง ที่จะเปิดตัวทั้ง 3 เฟสได้ในปี2565

         สำหรับการพัฒนาการท่องเที่ยวและที่พักอาศัยแบบบูรณาการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ไม่เคยมีมาก่อน และเรามั่นใจว่า เราสามารถนำเสนอคุณค่าที่ตอบโจทย์ความต้องการให้กับนักเดินทางทั่วโลกได้อย่างเหนือระดับ  โดยประกอบด้วยคอนเซปต์หัวใจหลัก ใน 5 ด้าน ดังนี้

        1. สุขภาพ (Health) และความเป็นอยู่ที่ดี (Wellness) ต้องมาก่อน  2.ธรรมชาติและอากาศที่บริสุทธิ์ 3.คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน4 ให้ความสนใจกับชุมชนท้องถิ่น ค่านิยม และจริยธรรมมากขึ้น 5.การใช้ชีวิตในรีสอร์ตที่เปรียบเสมือนบ้านที่สะดวกสบายครบจรจร ในขณะเดียวกันก็เสนอโอกาสในการทำงาน และส่งเสริมผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์สำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจของประเทศไทย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
พลิกโควิดเป็นโอกาส 3 บิ๊กทุนต่างชาติทุ่ม1.5หมื่นล้านปักหมุดอสังหาในไทย
บิ๊กธุรกิจโรงแรมไทยจี้รัฐเปิดประเทศรับต่างชาติ ตั้งกองทุนแสนล้านอุ้มธุรกิจ
กําเงินไล่ซื้อ โอกาสทอง‘เจ้าสัว’ 100 รายเร่ขายโรงแรมทุบราคา30-50%
ทายาทเจ้าสัวเจริญ ดัน AWC ตั้งกองทุนหมื่นล.ช้อนซื้อโรงแรม ต่อยอดธุรกิจ
เรสซิเด้นท์หรู ตีตราแบรนด์โรงแรมเชน โตสวนโควิด รับไทย-ต่างชาติซื้อบ้านหลังที่2​​​​​​​


 

          สำหรับกลุ่มเป้าหมายของเราส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวภายในภูมิภาค APAC ซึ่งขึ้นอยู่กับประเทศที่มี GDP สูงสุด อาทิ สหรัฐอเมริกา เยอรมนี บราซิล สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส ประเทศในฝั่งยุโรปตะวันออก จีน อินเดีย ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย รัสเซีย จากการเปลี่ยนแปลงในทวีปยุโรปของเศรษฐกิจโลก (World Bank และ IMP) มาสู่เอเชีย

         เราคาดว่า ชาวเอเชียจำนวนมากขึ้นและชาวต่างชาติจะย้ายฐานการผลิตและที่ทำงานมายังเอเชีย ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ในเอเชีย และจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเนื่องจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (เช่น EEC) จะดีขึ้นทั่วประเทศ

         ขณะเดียวกันการขยายธุรกิจของ AQI แบบบูรณาการ 360 องศา ยังรวมถึงธุรกิจบริการอื่นๆ ได้แก่ AQ Ventures(เอคิว เวนเจอร์)  ธุรกิจเรือยอร์ชสุดหรู ซึ่งให้บริการบนเกาะช้างและภูเก็ต รวมถึงการเช่าเรือยอร์ช การขาย และการบริหารจัดการ การซื้อเรือยอร์ช พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุดจากทรัพย์สินของตนเอง
            รวมถึง AQBooking.com (เอคิวบุ๊กกิ้งดอทคอม)  แพลตฟอร์มจองบริการและการท่องเที่ยวออนไลน์ การเดินทางดิจิทัล (digital travel concierge) แบบครบวงจร จะเปิดตัวภายในต้นปี 2564 เป็นการรวมองค์ประกอบทั้งหมดเข้าด้วยกันบนแพลตฟอร์มจองบริการและการท่องเที่ยวออนไลน์ เพื่อแนะนำนักท่องเที่ยวให้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวระดับพรีเมียม และสิทธิพิเศษเพียงแค่คลิกเดียว พร้อมบริการสะดวกสบายโดย Concierge Service ที่เหนือระดับและแตกต่าง

         AQ Food & Beverage (เอคิว ฟู้ด แอนด์ เบเวอเรจ) ร้านอาหารระดับไฮเอนด์และธุรกิจจัดเลี้ยงที่ อาหารและเครื่องดื่มในโรงแรม ร้านกูร์เมต์ระดับพรีเมียม ร้านอาหารและบริการจัดส่งอาหาร  AQ Gourmet & Dine Stores (เคคิว กูร์เมต์ แอนด์ ไดน์ สโตร) หลังจากความร่วมมือที่ประสบความสำเร็จในญี่ปุ่นกลุ่มบริษัทมีแผนที่จะเปิดตัว AQ Gourmet & Dine Stores ในโฮจิมินห์ซิตี้ (ไตรมาสที่ 4 ปี 2563) ในกรุงเทพฯ (ไตรมาสที่ 1 พ.ศ. 2564) และในเซี่ยงไฮ้ (ไตรมาสที่ 2 พ.ศ. 2564)

        AQ Privilege Beach Club & Residences (AQ Privilege Beach Club & Residences) เกาะมันใน ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางบนเกาะส่วนตัวสุดพิเศษอย่างแท้จริง ซึ่งประกอบด้วย วิลล่า เพรสซิเดนเชียล สวีท (Presidential Suite Villas) 4 หลัง ท่าจอดเรือส่วนตัว บีชคลับ สระว่ายน้ำอินฟินิตี้และกีฬาทางน้ำ

      “ผมยังมองว่าหลังโควิด-19 จะช่วยเพิ่มการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยนักท่องเที่ยวมองหาประสบการณ์ธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนั้น วิกฤติโควิดยังส่งเสริมการเดินทางในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ธุรกิจออนไลน์ และบริการจัดส่ง (delivery services) ที่จะยังคงดึงดูดการลงทุน เนื่องจากเศรษฐกิจดิจิทัลที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เรากำลังมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีในอนาคตเพื่อสร้างแพลตฟอร์มธุรกิจออนไลน์ของเราอย่างแข็งแกร่งและการพัฒนา e-biz ที่มั่นคง”

       นอกจากนี้บริษัทยังคงมองหาการลงทุนในไทยที่จะสอดคล้องกับแนวทางการบริการแบบองค์รวมของ AQI ที่สามารถตอบโจทย์สิ่งที่ลูกค้าต้องการ การใช้ชีวิตเชิงนิเวศที่หรูหรา ซึ่งเป็นวิถีชีวิตที่ไม่เหมือนใครในใจกลางธรรมชาติ เรามุ่งมั่นที่จะผสมผสานความสงบความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัวเข้ากับบริการด้านไลฟ์สไตล์ที่ยอดเยี่ยม ซึ่งรวมถึงร้านอาหารระดับโลก ฟิตเนสและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ บริการรถรับส่งสุดหรู และอื่นๆ ด้วย นายเอ็ดเวิร์ด กล่าวทิ้งท้าย

หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,630 วันที่ 26 - 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563