คาดน้ำมันดิบดูไบปี 64 ขยับขึ้นแตะ 45-55 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

26 พ.ย. 2563 | 10:05 น.

กลุ่ม ปตท. คาดน้ำมันดิบดูไบปี 64 ขยับขึ้นแตะ 45-55 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

รายงานข่าวระบุว่า  ทีมนักวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน กลุ่ม ปตท. (PRISM Expert) ร่วมกับ กลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบดูไบปี 64 อยู่ที่ 45 – 55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปรับตัวสูงขึ้นจากปี 63 เนื่องด้วยสัญญาณบวกจากความก้าวหน้าการพัฒนาวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส “โควิด-19” (COVID-19) การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของนานาประเทศ  และแนวโน้มการใช้พลังงานทดแทน

อย่างไรก็ตามทีมนักวิเคราะห์มองว่า การฟื้นตัวของตลาดน้ำมันยังคงมีความเสี่ยง หากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 เกิดการระบาดต่อเนื่องและยังไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้ราคาน้ำมันดิบดูไบเคลื่อนไหวที่ระดับ 35 – 45 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
          นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวในการเป็นประธานเปิดงานสัมมนาออนไลน์ 2020 The Annual Petroleum Outlook Forum ภายใต้หัวข้อ “The Great Reset : เมื่อโรคปฏิวัติโลก… เจาะลึกจุดเปลี่ยนโลกพลังงาน” ซึ่งทีมนักวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันของ กลุ่ม ปตท. หรือ PRISM Expert ร่วมกับ กลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ส.อ.ท. จัดขึ้นเพื่อนำเสนอทิศทางและแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลก

คาดน้ำมันดิบดูไบปี 64 ขยับขึ้นแตะ 45-55 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

รวมถึงความท้าทายของพลังงานในอนาคตที่เราต้องเผชิญเพื่อมุ่งสู่การสร้างพลังงานที่ยั่งยืนให้กับประเทศ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งต่อภาครัฐ ภาคเอกชน นักการเงินการธนาคาร สถาบันการศึกษา สื่อมวลชน และบุคคลทั่วไป

          “การวิเคราะห์สถานการณ์พลังงานที่น่าสนใจจากทีม PRISM Expert ของกลุ่ม ปตท. และการร่วมรับฟังความคิดเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิ จะช่วยเตรียมความพร้อมในการวางแผนการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ หลังโลกและธุรกิจต่างๆ รวมถึงธุรกิจพลังงานเผชิญกับความท้าทายอย่างมาก เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ส่งผลให้การเติบโตของเศรษฐกิจโลกหยุดชะงัก รวมถึง รูปแบบการดำเนินธุรกิจและวิถีการดำเนินชีวิตที่ต้องเปลี่ยนแปลงไป”

ความรวดเร็วที่จะพร้อมรับมือต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ตลอดจนการเผยแพร่ข้อมูลพลังงานให้สังคมมีความรู้ ความเข้าใจ ที่ถูกต้อง สร้างความเข้มแข็งในสังคมไทยด้วยความรู้จริง จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทุกภาคส่วนทั้งในวันนี้และอนาคต เพื่อร่วมกันสร้างการเติบโตของสังคมและเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน (Sustainable Growth for All) ตามนโยบายของ กลุ่ม ปตท.

นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม เผยถึงทิศทางของตลาดน้ำมันโลก ว่า COVID-19 เป็น The Great Reset หรือ จุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันในปี 63 ปรับลดลงมากที่สุดเป็นประวัติกาล ส่งผลให้หลายฝ่ายรวมถึงผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลกรวมตัวกันเพื่อหาทางรักษาสมดุลให้กับตลาดน้ำมัน โดยปัจจัยสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโลกให้ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว คือ การผลิตวัคซีนป้องกัน โควิด-19 รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ และนโยบายการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนที่มีบทบาทสำคัญ เพื่อช่วยสร้างสมดุลการเติบโตเศรษฐกิจในอนาคต