รฟท.จับมือ 5 เอกชน ลงนามสัญญารถไฟไทย-จีน 4 หมื่นล.

26 พ.ย. 2563 | 08:52 น.

รฟท.ดึง 5 บริษัทเอกชน ลงนามสัญญารถไฟไทย-จีน วงเงิน 4 หมื่นล้าน คาดเปิดให้บริการปี 2568 ส่วนอีก 6 สัญญา เตรียมลงนามสัญญาเดือนม.ค.2564 ขณะที่สัญญา4-1 ติดปัญหาโครงสร้างตอม่อร่วมกับไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน

วันนี้ (26 พ.ย. 63) เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมอาคารสโมสร กระทรวงคมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศรปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงคุณธรรมและลงนามสัญญาการก่อสร้างโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา) หรือรถไฟไทย-จีน  จำนวน 5 สัญญา ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย และบริษัทคู่สัญญา ได้แก่ บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) , บริษัท ไทย เอ็นยิเนียร์และอุตสาหกรรม จำกัด , บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) , บริษัท กิจการร่วมค้า เอสพีทีเค จำกัด และบริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน)

 

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า สำหรับการลงนามสัญญาก่อสร้างงานโยธา 5 สัญญา ในครั้งนี้ ประกอบด้วย สัญญาที่ 3-2 งานโยธาสำหรับงานอุโมงค์ (มวกเหล็กและลำตะคอง) ดำเนินการโดย บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีจุดเด่นคืองานก่อสร้างอุโมงค์ยาวรวม 8 กิโลเมตร และการก่อสร้างทางรถไฟระยะทางรวม 12.23 กิโลเมตร สัญญาที่ 3-3 งานโยธาสำหรับช่วงบันไดม้า-ลำตะคอง ดำเนินการโดย บริษัท ไทยเอ็นยิเนียร์และอุตสาหกรรม จำกัด ซึ่งมีงานก่อสร้างสถานีปากช่อง และการก่อสร้างทางรถไฟระยะทางรวม 26.10 กิโลเมตร

สัญญาที่ 3-4 งานโยธาสำหรับช่วงลำตะคอง-สีคิ้ว และช่วงกุดจิก-โคกกรวด ดำเนินการโดย บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีจุดเด่นคือ มีงานก่อสร้างทางรถไฟระยะทางยาวที่สุดในโครงการ ถึง 37.45 กิโลเมตร สัญญาที่ 3-5 งานโยธาสำหรับช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา ดำเนินการโดย บริษัท กิจการร่วมค้า เอสพีทีเค จำกัด (ซึ่งประกอบด้วย บริษัท นภาก่อสร้าง จำกัด บริษัท ทิมเซคาร์ตาร์ เอสดีเอ็น บีเอชดีจำกัด และบริษัท บิน่า พูรี่ เอสดีเอ็น บีเอชดี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทจากประเทศมาเลเซีย) ซึ่งเป็นงานก่อสร้างสถานีนครราชสีมา  และการก่อสร้างทางรถไฟระยะทางรวม 12.38 กิโลเมตร และสัญญาที่ 4-7 งานโยธาสำหรับช่วงสระบุรี-แก่งคอย ดำเนินการโดย บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีจุดเด่นคืองานก่อสร้างสถานีสระบุรี  และการก่อสร้างทางรถไฟระยะทางรวม 12.99 กิโลเมตร ทั้งนี้การลงนามทั้ง 5 สัญญา มีระยะทางรวมทั้งสิ้น 101.15 กิโลเมตร มีวงเงินลงทุนรวม 40,275 ล้านบาท  เมื่อโครงการนี้แล้วเสร็จและคาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2568  โดยจะมีการก่อสร้างสถานีแห่งใหม่ ทั้ง 4 แห่ง ประกอบด้วย  สถานีอยุธยา  สถานีสระบุรี  สถานีปากช่อง  สถานีนครราชสีมา

รฟท.จับมือ 5 เอกชน ลงนามสัญญารถไฟไทย-จีน 4 หมื่นล.   

นายสุรณเดช ธูปะวิโรจน์  รองวิศวกรใหญ่ด้านพัฒนา ฝ่ายการช่างโยธา การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า สำหรับโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา) หลังจากนี้จะมีการลงนาสัญญาเพิ่มเติมอีก 6 สัญญา  ประกอบด้วย สัญญา3-1 ช่วงแก่งคอย-กลางดงและช่วงปากอโศก-บันไดม้า ระยะทาง 30.21 กม. วงเงิน 11,386 ล้านบาท  สัญญา 4-2 ช่วงดอนเมือง-นวนคร ระยะทาง 21.80 กม. วงเงิน 8,626 ล้านบาท  สัญญา 4-3 ช่วงนวนคร-บ้านโพ ระยะทาง 23 กม.  วงเงิน 11,525 ล้านบาท  สัญญา4-4  ศูนย์ซ่อมบำรุงเชียงรากน้อย วงเงิน 6,573  ล้านบาท  สัญญา 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.30 กม. วงเงิน9,913  ล้านบาท และสัญญา 4-6  ช่วงพระแก้ว-สระบุรี ระยะทาง 31.60 กม. วงเงิน 9,429  ล้านบาท เบื้องต้นผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.โดยจะเร่งลงนามสัญญาให้ทันภายในเดือนม.ค.2564   

 

ขณะที่สัญญา 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 15.21 กม. วงเงิน 18,000 ล้านบาท อยู่ระหว่างการปรับแบบสถานีช่วงอยุธยา เนื่องจากต้องใช้โครงสร้างร่วมตอม่อกับโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ซึ่งต้องรอเสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเพื่อพิจารณาเห็นชอบ  หากได้ข้อยุติจะเริ่มประกาศประกวดราคา หลังจากที่ลงนามสัญญาทั้ง 6 สัญญา เสร็จสิ้นแล้ว