ดาวโจนส์ปิดลบ 173 จุด วิตกคนว่างงานสหรัฐพุ่งเกินคาด

25 พ.ย. 2563 | 23:43 น.

ดาวโจนส์ปิดลบ 173.77 จุด หลังจากสหรัฐเปิดเผยจำนวนคนว่างงานที่สูงกว่าคาด อันเนื่องมาจากผลกระทบของมาตรการล็อกดาวน์ที่รัฐต่างๆ

ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 พ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยจำนวนคนว่างงานที่สูงกว่าคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากผลกระทบของมาตรการล็อกดาวน์ที่รัฐต่างๆของสหรัฐนำมาใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
          

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,872.47 จุด ลดลง 173.77 จุด หรือ -0.58% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,629.65 จุด ลดลง 5.76 จุด หรือ -0.16% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,094.40 จุด เพิ่มขึ้น 57.61 จุด หรือ +0.48%        

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ราคาทองปิดบวก 90 เซนต์ ดอลลาร์อ่อนหนุนแรงซื้อ

พยากรณ์อากาศวันนี้ เหนือ อีสาน และกลาง อากาศเย็น มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง

 

ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดอ่อนแรงลง หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 778,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 733,000 ราย จากระดับ 742,000 รายที่มีการรายงานในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
          

ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจในสหรัฐและทำให้มีการปลดพนักงานจำนวนมาก โดยล่าสุด รัฐลุยเซียนาเริ่มกลับมาใช้มาตรการควบคุมโควิด-19 เฟสที่ 2 อีกครั้งเมื่อวานนี้ และจะบังคับใช้เป็นเวลา 28 วัน หลังจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นอย่างมาก ขณะที่รัฐนิวยอร์กเตือนว่าจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอาจพุ่งขึ้นในช่วงเทศกาลวันหยุด ทำให้รัฐนิวยอร์กต้องกำหนดพื้นที่ควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ
          

หุ้น 7 กลุ่มจากทั้งหมด 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหนักสุด โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 2.79% หุ้นเชฟรอน ดิ่งลง 3.64% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ลดลง 1.73% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ลดลง 0.36%
          

หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส ร่วงลง 1.05% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ปรับตัวลง 0.4% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ลบ 0.19%
          

อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น และเป็นปัจจัยหนุนดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าบริษัทเทคโนโลยีจะได้ประโยชน์จากการที่ประชาชนหันมาทำกิจกรรมทางออนไลน์มากขึ้นในช่วงที่โควิด-19 ยังคงแพร่ระบาด โดยหุ้น Zoom Video Communications พุ่งขึ้น 3.78% หุ้นทวิตเตอร์ พุ่งขึ้น 2.67% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ บวก 0.44% หุ้นแอมะซอน พุ่งขึ้น 2.15% หุ้นแอปเปิล บวก 0.75%
          

หุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 3.35% โดยมูลค่าตลาดของเทสลาทะยานขึ้นเหนือระดับ 5 แสนล้านดอลลาร์แล้วเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แม้มีข่าวว่าเทสลาเรียกคืนรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 9,500 คันก็ตาม
          

สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการเมื่อคืนนี้ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2563 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 33.1% ซึ่งเป็นการขยายตัวสูงเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ที่สหรัฐเริ่มมีการรวบรวมข้อมูลในปี 2490 หรือกว่า 70 ปีก่อนหน้านี้
          

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 1.3% ในเดือนต.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.0% หลังจากพุ่งขึ้น 2.1% ในเดือนก.ย.
          

ส่วนยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐลดลง 0.3% สู่ระดับ 999,000 ยูนิตในเดือนต.ค. แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 970,000 ยูนิต
          

ขณะที่ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 76.9 ในเดือนพ.ย. แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 76.8 จากระดับ 81.8 ในเดือนต.ค. โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
          

ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการซื้อขายในวันพฤหัสบดีที่ 26 พ.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า