วันนี้(19 พ.ย.63) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทยอภิปรายยืนยันว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของไอลอว์ ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ และที่มองว่าร่างไอลอว์ล้มสถาบัน เป็นการมองแบบมายาคติ โดยไม่มีเหตุผล ว่า ในเรื่องนี้เท็จจริงหมอชลน่านรู้แก่ใจว่าล้มเจ้าหรือไม่ และข้อเท็จจริงร่างนี้อาจเป็นเช่นนั้นก็ได้ เพราะสังคมไทยและคนไทยส่วนใหญ่ที่ปกป้องสถาบัน มีความเคลือบแคลงใจมาก แต่ประธานสภาฯ และสภาฯ ยังได้บรรจุเป็นญัตติเข้าสู่ที่ประชุมในสภาฯเพื่อให้ ส.ส.และ ส.ว.ได้พิจารณานั้น ถือว่าให้สิทธิ์แล้ว ส่วนจะตกไปก็เป็นเรื่องของสมาชิกฯ ส่วนใหญ่พิจารณาไม่รับร่างไอลอว์ก็ต้องยอมรับกติกา
การที่ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล และ ส.ว.ส่วนใหญ่ไม่รับร่างฉบับไอลอว์นั้น ก็เพราะมีจุดยืนที่ชัดเจนตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าจะไม่แตะหมวด1 หมวด 2 ดังนั้น พรรคฝ่ายค้านควรยอมรับการตัดสินใจของคนอื่นด้วย และต้องยอมรับในเสียงส่วนใหญ่ในสภาฯ ที่เป็นตัวแทนของประชาชนมิใช่หรือ
และที่หมอชลน่านบอกว่าขณะนี้เป็นแค่วาระรับหลักการ แต่จะเกิดขึ้นหรือไม่ขึ้นอยู่กับ สสร.ที่จะไปคิดแก้ภายหลังนั้น นายสุภรณ์ มองว่า หากมีความจริงใจที่จะไม่แก้หมวด 1 และหมวด 2 ก็น่าจะแสดงความจริงใจตั้งแต่ต้น ไม่ใช่ให้ส.ส.ร.ไปแตะไปแก้ตอนหลัง ประชาชนที่ปกป้องสถาบันก็คงไม่ยอมเหมือนกัน และหลักการเช่นนั้นไม่ควรทำอย่างยิ่ง ความวุ่นวายจะตามมาไม่มีที่สิ้นสุด
"ถ้าหมอชลน่านและพรรคเพื่อไทยมีจุดยืนตั้งแต่แรกว่า เสนอร่างไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 ที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์แล้ว จะไปกังวลร่างของไอลอว์ที่ตกไปเพื่ออะไร หรือว่าหมอชลน่านแสดงละครสองหน้า เล่นมายาคติเสียเอง เพื่อเสนอหน้าเอาคะแนนจากกลุ่มคนที่คิดล้มล้าง อ้างปฏิรูปสถาบัน ที่กำลังก้าวร้าวจาบจ้วงสถาบันอย่างหนักในขณะนี้ ตกลงจะเอายังไงกันแน่ หมอชลน่านจะปกป้องสถาบันหรือจะเปิดหน้าเข้าข้างกลุ่มคณะราษฎร 63 ที่คิดล้มล้างสถาบัน เอากันให้ชัดๆ ขอจุดยืนที่ชัดเจนด้วย ไม่ใช่ปากว่าตาขยิบ อย่าคิดว่าคนปกป้องสถาบันจะอ่านทางไม่ออก ประชาชนที่ปกป้องสถาบันทุกคนรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมนักการเมืองสไตร์นี้ทุกคนครับ"