หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 19 พฤศจิกายน 2563
+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับเพิ่ม หลัง Pfizer รายงานผลการทดสอบวัคซีนปรับตัวดีขึ้นแตะที่ระดับร้อยละ 95 เช่นเดียวกับ ผลการทดสอบวัคซีนของบริษัท Moderna ที่อยู่ที่ระดับร้อยละ 94.5 ข่าวดีของผลการทดสอบวัคซีนดังกล่าว ช่วยเพิ่มความหวังต่อการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลต่อความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลก
+ กลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรมีแนวโน้มที่จะเลื่อนการปรับเพิ่มกำลังการผลิตกว่า 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ออกไปก่อน จากเดิมที่จะปรับเพิ่มในเดือนม.ค. 64 หลังตลาดยังคงถูกกดดันจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากลิเบีย ทั้งนี้กลุ่มผู้ผลิตจะมีการประชุมเพื่อสรุปมติการปรับลดกำลังการผลิตอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 30 พ.ย. และ 1 ธ.ค. 63 ที่จะถึงนี้ต่อไป
- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 0.77 ล้านบาร์เรล แตะที่ระดับ 489.5 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์การนำเข้าน้ำมันเบนซินในอินโดนีเซียปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 10 ล้านบาร์เรลในเดือนธ.ค. 63 อย่างไรก็ดีตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากอุปทานในภูมิภาคที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปทานในภูมิภาคที่อยู่ในระดับจำกัด ท่ามกลางการส่งออกน้ำมันดีเซลจากประเทศจีนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 3 ในเดือน พ.ย. 63
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า ความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จะทำให้มีการเปิดเศรษฐกิจและหนุนความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะชะลอแผนการเพิ่มการผลิตน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 39 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 41.82 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 59 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 44.34 ดอลลาร์/บาร์เรล