เคลียร์ บังคับใช้กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค-ป้องโรคระบาด

18 พ.ย. 2563 | 09:05 น.

อธิบดีกรมปศุสัตว์แจงกรณีบังคับใช้กฎหมาย ขออนุญาตนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านไทย ป้องกันโรคระบาด สุขอนามัยของประชาชน-เศรษฐกิจของประเทศ  ไม่ได้กลั่นแกล้งผู้ประกอบการ

 

นายสัตวแพทย์สรวิศ  ธานีโต

 

นายสัตวแพทย์สรวิศ  ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยถึงกรณีที่มีสื่อรายงานข่าว นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการ-สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย และผู้ประกอบการ จะนำความไปร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 ว่าการกระทำของกรมปศุสัตว์ มีลักษณะเป็นการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ และไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อแนะนำของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ ใช้อำนาจตามกฎหมาย และอาจเป็นการกลั่นแกล้งผู้ประกอบการให้ได้รับความเสียหาย และไม่มีผู้ประกอบการรายใดอยากเข้ามาใช้บริการเขตปลอดอากรของไทยอีกต่อไป ทำให้ประเทศไทยไม่สามารถเป็นฮับ (HUB) ของการนำเข้า-ส่งออกสินค้าในกลุ่มอาเซียนตามนโยบายของรัฐบาล และทำให้ราชการเสียหายได้ และกรณีกรมปศุสัตว์ ได้มีหนังสือถึงกรมศุลกากร ให้ขยายระยะเวลาของการบังคับใช้ มาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ออกไปก่อนจนกว่าจะได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการ ที่ได้ใช้สิทธิประโยชน์ ในเขตปลอดอากรและหน่วยงาน   ที่เกี่ยวข้อง แต่ทว่าจนบัดนี้ กรมปศุสัตว์กลับมิได้ติดต่อให้ผู้ประกอบการหรือผู้ร้องเรียน เพื่อไปให้ข้อมูลตามข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดิน แต่กลับมีหนังสือถึงกรมศุลกากรทั่วประเทศเพื่อบังคับใช้ มาตรา 31 ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 นั้น 

 

กรมปศุสัตว์ขอชี้แจงว่า กรมปศุสัตว์ได้ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงข้อแนะนำของผู้ตรวจการ-แผ่นดิน  ตามหนังสือแจ้งผลการวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันโรคระบาดที่เกิดจากสัตว์หรือ ซากสัตว์ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขอนามัยของประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศ โดยในเบื้องต้น กรมปศุสัตว์ได้ประสานงานและเชิญผู้ประกอบการที่อยู่ในฐานข้อมูลการนำเข้าสินค้าประเภทสัตว์หรือซากสัตว์เข้าไปในเขตปลอดอากรของกรมปศุสัตว์ เพื่อชี้แจงข้อมูลและสร้างการรับรู้ เกี่ยวกับการปฏิบัติตามมาตรา 31

 

เคลียร์ บังคับใช้กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค-ป้องโรคระบาด

 

นอกจากนี้ กรมปศุสัตว์ได้มีการประสานงานกับกรมศุลกากรเพื่อแจ้งต่อไปยังผู้ประกอบการให้ทราบถึงการขยายระยะเวลาการบังคับใช้มาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ออกไปก่อนจนกว่าจะได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการที่ได้ใช้สิทธิประโยชน์ในเขตปลอดอากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การแจ้งผู้ประกอบการที่นำสินค้าเข้าไปในเขตปลอดอากรให้มีการแจ้งการนำเข้าต่อสัตวแพทย์ประจำท่าเข้านั้น ๆ เพื่อให้สัตว์หรือซากสัตว์ได้รับการตรวจโรค เพื่อให้ผู้ประกอบการได้ซักซ้อม เตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตามมาตรา 31 โดยยังไม่ได้บังคับใช้มาตรา 31 ที่ต้องขอรับใบอนุญาตและเสียค่าธรรมเนียมใบอนุญาต

 

อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ กรมปศุสัตว์ได้ประสานกรมศุลกากรขอความอนุเคราะห์ข้อมูลรายชื่อเขตปลอดอากรตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร เพื่อนำไปใช้ในการเตรียมดำเนินการบังคับใช้ มาตรา 31 ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้มีหนังสือแจ้งผู้ประกอบการด้านการขนส่งและผู้ประกอบการแปรรูปอาหารโดยตรง จำนวน 23 ราย ให้ทราบเป็นการล่วงหน้าว่า กรมปศุสัตว์จะมีการบังคับใช้มาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 พร้อมแจ้งขั้นตอนการปฏิบัติ และขอให้แสดงความคิดเห็น

 

รวมถึงกรมปศุสัตว์ได้มีหนังสือถึงผู้ที่ได้รับอนุมัติให้จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในเขตปลอดอากร ผู้ประกอบการด้านคลังสินค้า จำนวน 11 ราย เพื่อขอความอนุเคราะห์ให้แจ้งผู้ประกอบการที่มีการนำสินค้าประเภทสัตว์หรือซากสัตว์เข้าไปในเขตปลอดอากร ว่าจะมีการบังคับใช้มาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งการดำเนินการทั้งหมด เป็นการสร้างให้ผู้ประกอบการได้รับรู้ เข้าใจ และมีการเตรียมความพร้อมที่จะต้องปฏิบัติตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องและตามข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดิน รวมทั้งตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันโรคระบาดที่เกิดจากสัตว์หรือซากสัตว์ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขอนามัยของประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศ