ตั้งทีมเฉพาะกิจสกัดโรค “ใบร่วงยางพารา”

17 พ.ย. 2563 | 11:50 น.

โฆษกเกษตรฯ เผย โรคใบร่วงยางพารา ลามหนัก สกัดยังไม่อยู่ ตั้งทีมเฉพาะกิจ เร่งแก้ปัญหาด่วน  ปูพรมฉีดกำจัดเชื้อรา ยับยั้งเชื้อโรค

 

สรวิศ ธานีโต

 

นายสรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”  เรื่อง ปัญหาโรคใบร่วงยางพาราระบาดในภาคใต้ หลังจากได้รับรับรายงานจากการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) พบการระบาดของโรคใบร่วงชนิดใหม่ในพื้นที่ภาคใต้เมื่อปี 2562 ใน 10 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส ยะลา ปัตตานี สงขลา สตูล ตรัง กระบี่ พังงา พัทลุง และสุราษฎร์ธานี รวมพื้นที่ระบาดสูงสุดเมื่อเดือนมีนาคม 2563 จำนวน 775,195 ไร่ โดยพบการระบาดมากที่สุดในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เป็นไปได้ที่เชื้อราตัวนี้มีการแพร่กระจายเข้ามาระบาดในพื้นที่ปลูกยางแถบชายแดนรอยต่อกับประเทศมาเลเซีย เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมที่คล้ายคลึงกันคือร้อนชื้นและฝนตกชุก หลังจากได้นำตัวอย่างไปวิเคราะห์พิสูจน์เชื้อหาสาเหตุแล้ว พบว่าโรคใบร่วงชนิดนี้เป็นเชื้อ Colletotrichum sp. จากนั้นต้นยางพาราเข้าสู่การผลัดใบตามฤดูกาล โรคจึงคลี่คลายไปกับใบที่ร่วงหล่น

 

หลังจากมีการแตกใบใหม่พบการระบาดซ้ำในปีที่ 2 โดยข้อมูล ณ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 พบการระบาดใน 7 จังหวัดได้แก่ นราธิวาส ยะลา ปัตตานี สงขลา พังงา พัทลุง และสุราษฎร์ธานี รวมพื้นที่ระบาด 116,674 ไร่ และมีแนวโน้มการระบาดเพิ่มมากขึ้นในช่วงนี้  กระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ สั่งการให้ตั้งคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการบริหารจัดการโรค ประกอบด้วย การยางแห่งประเทศไทย ผู้แทนจากสำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช และกองการยาง กรมวิชาการเกษตร ผู้แทนจากกรมส่งเสริมการเกษตร ผู้แทนจากคณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคพืช และเทคโนโลยีสารสนเทศ

 

ตั้งทีมเฉพาะกิจสกัดโรค “ใบร่วงยางพารา”

 

พร้อมกับให้ กยท. เร่งออกคำแนะนำ ประชาสัมพันธ์และเผยแพร่เพื่อสร้างความเข้าใจและแนะแนวทางการป้องกันและกำจัดโรค การเก็บใบที่ร่วงทำลาย สาธิตและสนับสนุนปัจจัยในการป้องกันกำจัดโรคในพื้นที่ การบำรุงรักษาสวนยาง และการใช้ยาป้องกันกำจัดโรค สนับสนุนเงินอุดหนุนตามมาตรา ๔๙ (3) เพื่อจัดหาอุปกรณ์และสารเคมีในการฉีด พ่นสาร เพื่อยับยั้งเชื้อโรค โดย กยท. ร่วมกับกลุ่มเกษตรกร สถาบันเกษตรกรจัดทำโครงการขอสนับสนุนเงินอุดหนุนดังกล่าว

 

พ่วงการศึกษาวิจัย เนื่องจากเป็นโรคระบาดชนิดใหม่ กยท. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ การวิจัยเร่งด่วน ได้แก่ การศึกษาหาเชื้อสาเหตุของโรค การศึกษาสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเกิดโรค การสำรวจพื้นที่เกิดโรคและผลกระทบต่อผลผลิต การแปลภาพถ่ายดาวเทียมพื้นที่เกิดโรคใบร่วง การศึกษาสารป้องกันกำจัดเชื้อราที่มีประสิทธิภาพ การวิจัยระยะกลาง ได้แก่ การพัฒนาโครงการการคัดเลือกพันธุ์ยางต้านทานโรคใบร่วงชนิดใหม่ เพื่อที่จะให้ได้พันธุ์ยางทนโรคหรือได้พันธุ์ยางต้านทานโรค