ยิ่งนับใหม่ คะแนนยิ่งนำ “ไบเดน” ทิ้งห่าง 306 ต่อ 232

14 พ.ย. 2563 | 09:33 น.

สื่อสหรัฐรายงานคาดการณ์คะแนนคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral Vote) ล่าสุดวานนี้ (13 พ.ย.) นายโจ ไบเดน ได้ไปทั้งสิ้น 306 คะแนน ขณะที่ปธน.ทรัมป์ ได้คะแนนตามหลังทิ้งห่างที่ 232 คะแนน ยิ่งตอกย้ำว่านายไบเดนนั้นเริ่มเตรียมจัดตั้งคณะทำงานและฟอร์มทีมรัฐบาลได้แล้ว

 

การนับคะแนนการเลือกตั้ง อีกครั้งที่รัฐจอร์เจีย ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของรีพับลิกันมาหลายปี ยืนยันถึง ชัยชนะของนายโจ ไบเดน และเป็นครั้งแรกในรอบ 29 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2535 ที่ตัวแทน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ จากพรรคเดโมแครต สามารถเอาชนะตัวแทนจากพรรครีพับลิกันในรัฐนี้  

 

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า นายโจ ไบเดน ได้คะแนนเสียงจากประชาชน (Popular Vote) เกือบ 78 ล้านเสียงทั่วประเทศ ขณะที่ทรัมป์ได้คะแนนประมาณ 73 ล้านเสียงในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่ตัวเลขคาดการณ์คะแนนจากคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral Vote) ซึ่งคำนวณจากจำนวนคณะผู้เลือกตั้งในรัฐที่แต่ละฝ่ายได้รับชัยชนะ นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ได้ไปทั้งสิ้น 306 คะแนน ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้เพียง 232 คะแนน จากจำนวนทั้งหมด 538 คะแนน

นายโจ ไบเดน เริ่มฟอร์มคณะทำงานและจัดทำโผคณะรัฐมนตรีแล้ว

แต่ละมลรัฐ(รวมทั้งเขตปกครองพิเศษวอชิงตัน ดีซี) มีกำหนดเส้นตายจะต้องรับรองผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการในรัฐของตัวเองภายในวันที่ 8 ธ.ค. พร้อมทั้งใช้ผลการนับคะแนนนั้นเลือกตัวแทนเข้าไปเป็นคณะผู้เลือกตั้งของแต่ละรัฐเพื่อลงคะแนนเลือกประธานาธิบดีในวันที่ 14 ธ.ค.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

อย่างไรก็ตาม ปธน.ทรัมป์ ยังคงไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ แม้ว่าจะมีคะแนนตามหลังทิ้งห่างนายไบเดน โดยเขาอ้างว่ามีการโกงเลือกตั้งแต่ก็ไม่มีหลักฐานมายืนยันแต่อย่างใด 

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังไม่สามารถทำใจยอมรับความพ่ายแพ้

ปธน.ทรัมป์กล่าวเมื่อวันศุกร์ (13 พ.ย.) ว่า เมื่อวาระการดำรงตำแหน่งของเขาสิ้นสุดลงในวันที่ 20 ม.ค.2564 ก็มีความเป็นไปได้ที่เขาอาจจะไม่ได้เข้าครอบครองทำเนียบขาวเป็นสมัยที่สอง "ผมคิดว่า เวลาจะเป็นตัวบ่งบอก"

 

ทรัมป์ยังออกมาแสดงความเห็นต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนต้านโรคโควิด-19 นับตั้งแต่ที่สื่อรายงานว่า เขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้การเลือกตั้งเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (7 พ.ย.) โดยเขายืนยันว่า คณะบริหารของเขาจะไม่ดำเนินมาตรการล็อกดาวน์อีก แม้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐจะพุ่งแตะ 150,000 รายต่อวัน และยังระบุด้วยว่า สหรัฐดำเนินการได้ดีกว่าประเทศอื่น ๆ อย่างมากในการรับมือกับโรคระบาดใหญ่นี้

 

ขณะที่ปธน.ทรัมป์ยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้และยังคงพยายามดำเนินการทางกฎหมายเพื่อคัดค้านผลการนับคะแนน รวมทั้งไม่ให้ความร่วมมือในการถ่ายโอนอำนาจ เจ้าหน้าที่ระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติจะเข้าพบนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ในสัปดาห์หน้า เพื่อบรรยายสรุปภารกิจด้านความมั่นคง

 

นอกจากนี้ นายไบเดน ยังได้เริ่มหารือกับที่ปรึกษาในสัปดาห์นี้เพื่อคัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีของเขา ขณะเดียวกันก็ติดต่อกับสมาชิกสภาคองเกรสเพื่อหารือเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยนายโจ ไบเดน คาดหวังว่าภายหลังการสาบานตนรัฐตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค. ปีหน้า เขาจะเริ่มทำงานได้ทันทีตั้งแต่วันแรก