“ช.การช่าง” โชว์กำไร 774 ล้านเล็งงานใหม่ปี 64 มูลค่า 2 แสนล้าน

14 พ.ย. 2563 | 05:10 น.

“CK” โชว์กำไรโต 1,100% ไตรมาส 3/63พร้อมเล็งงานใหม่ปีหน้า 2 แสนล้านบาท

นางสาวสุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ “CK” เปิดเผยว่า  ผลประกอบการในไตรมาส 3/63 ช.การช่าง มีรายได้ก่อสร้าง 3.79 พันล้านบาท รายได้รวม 4.52 พันล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสที่ผ่านมา  แต่ก็ยังสามารถรักษาอัตรากำไรไว้ได้เป็นอย่างดี โดยมีกำไรสุทธิ 774 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 1,100% จากไตรมาสที่แล้ว อัตรากำไรขั้นต้น 7.73% อัตรากำไรสุทธิ 17.10%  ซึ่งความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างที่อยู่ระหว่างการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมาย ไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 (covid-19) แต่อย่างใด

              อย่างไรก็ดี วันที่ 30 ตุลาคม 63 ที่ผ่านมา บริษัทได้ลงนามสัญญาก่อสร้างอาคารศูนย์การเรียนรู้และวิจัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ กับ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ มูลค่า 4.04 พันล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)  นอกจากนี้   ช.การช่างได้เตรียมความพร้อมในการเข้าแข่งขันการประมูลราคาโครงการต่าง ๆ ในปีหน้าซึ่งมั่นใจว่า จะมีงานเพิ่มเติมเข้ามาอย่างแน่นอน

“ช.การช่าง” โชว์กำไร 774 ล้านเล็งงานใหม่ปี 64 มูลค่า 2 แสนล้าน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม  มูลค่ากว่า 1.2 แสนล้านบาท ที่ได้มีการยื่นประกวดราคาไปแล้วเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 โดยบริษัทมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านการก่อสร้างอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดิน  การติดตั้งงานระบบ  และพันธมิตรที่แข็งแกร่งคือ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ที่มีประสบการณ์ในการบริหารการเดินรถมากว่า 16 ปี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ช.การช่าง” ชิงบิ๊กโปรเจ็กต์ 5.1 แสนล้านปลายปี

"ช.การช่าง" เอกชนรายที่ 7 ซื้อซองประมูล “สายสีส้ม”

“ช.การช่าง”หนุน สุดยอดนวัตกรรมช่างชุมชน

สำหรับโครงการก่อสร้างของภาครัฐ ช.การช่าง มีความเชื่อมั่นว่าจะมีอีกหลายโครงการที่มีความพร้อม สามารถเปิดประกวดราคาได้ในปี 64  อาทิ รถไฟฟ้าสายสีม่วงด้านใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ มูลค่า 1 แสนล้านบาท โครงการรถไฟทางคู่ จำนวน 3 สาย ได้แก่ สายเด่นชัย - เชียงราย - เชียงของ  สายบ้านไผ่ - นครพนม และสายขอนแก่น - หนองคาย รวมมูลค่ากว่า 1.5 แสนล้านบาท  รวมถึงโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบางใน สปป.ลาว ที่  ช.การช่าง ได้เข้าร่วมลงทุนซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้เร็วๆนี้  ซึ่งโครงการเหล่านี้จะช่วยเสริมมูลค่างานในมือ (Backlog) ขึ้นมาอย่างน้อย 1.5 -2 แสนล้านบาทในปี 64

ส่วนการลงทุนในธุรกิจสาธารณูปโภคพื้นฐานของ ช.การช่าง ได้แก่ BEM หลังจากได้ต่อสัมปทานทางด่วนอีก 15 ปี 8 เดือน จำนวน 3 เส้นทาง ได้แก่ ทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน A B C  ทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน D   และทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด  ประกอบกับการผ่อนคลายมาตรการการแพร่ระบาดของ covid-19 ก็ทำให้ผลประกอบการดีขึ้นและกลับมาเป็นปกติแล้ว  

และในวันที่14 พฤศจิกายน 2563 จะมีการเปิดโครงการรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) ส่วนต่อขยาย ณ สถานีรถไฟฟ้าสนามไชย และสถานีรถไฟฟ้าหลักสอง  ในส่วนของบริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) (TTW)  ผู้ผลิตน้ำประปาเอกชนรายใหญ่ที่สุดของประเทศ ความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของภาคครัวเรือน ส่งผลให้ผลประกอบการยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี จ่ายปันผลได้ต่อเนื่องสม่ำเสมอ  

นอกจากนี้ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) (CKP)  โรงไฟฟ้าทุกแห่งมีแนวโน้มที่จะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ สามารถรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าไซยะบุรีและโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ 9 แห่ง ได้ครบอีกด้วย