เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่า-หุ้นผ่านแนวต้าน 1,370 จุด

14 พ.ย. 2563 | 01:36 น.

จับตาปัจจัย “จีดีพีไตรมาส3/63ไทยและญี่ปุ่น-การเมืองสหรัฐและภายในประเทศ”ระหว่างวันที่ 16-20พ.ย.นี้

ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 30.00-30.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ ระหว่างวันที่ 16-20พฤศจิกายน 2563  
จับตาปัจจัยสำคัญ ที่ต้องติดตาม ได้แก่ จีดีพีไตรมาส 3/63 ของไทย  ผลการประชุมนโยบายการเงินของคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563  ประเด็นทางการเมืองของสหรัฐฯ รวมถึงปัจจัยทางการเมืองของไทย ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม การเริ่มสร้างบ้านและยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค. ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดนิวยอร์ก ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดฟิลาเดลเฟียและดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนพ.ย. นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามจีดีพีไตรมาส 3/63 ของญี่ปุ่น และข้อมูลเศรษฐกิจจีนเดือนต.ค. อาทิ ยอดค้าปลีก และการผลิตภาคอุตสาหกรรมด้วยเช่นกัน
 เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่า-หุ้นผ่านแนวต้าน 1,370 จุด
สัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดรอบ 10 เดือนที่ 30.175 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนจะลดช่วงบวกลงบางส่วน เงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ตามสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชียตอบรับชัยชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของนายโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครตและความคืบหน้าของวัคซีนต้านโควิด-19 นอกจากนี้เงินบาทยังมีแรงหนุนจากแรงซื้อสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติเช่นกัน เงินบาทรักษาทิศทางแข็งค่า แม้ว่าสัญญาณการระบาดของโควิด-19 เริ่มรุนแรงขึ้นในหลายประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ และเงินบาทปิดตลาดอยู่ที่ระ

ด้านตลาดหุ้น บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย คาดว่าดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,330 และ 1,315 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,355 และ 1,370 จุดตามลำดับ 
ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามได้แก่  ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/63 ของไทย ผลการประชุมกนง.(18พ.ย.) และประเด็นทางการเมืองของไทย ตลอดจนสถานการณ์โควิด-19 ประเด็นการเมืองสหรัฐฯ และสัญญาณตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสองและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/63 ของญี่ปุ่น ตลอดจนข้อมูลเศรษฐกิจเดือนต.ค. ของจีน
 เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่า-หุ้นผ่านแนวต้าน 1,370 จุด

หุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวนตลอดสัปดาห์  โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,346.47 จุด เพิ่มขึ้น 6.86% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 110,199.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86.68% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 0.08% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 316.30 จุด
หุ้นไทยพุ่งขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ตามแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ขานรับชัยชนะของนายโจ ไบเดนที่ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ รวมถึงรายงานข่าวเชิงบวกเกี่ยวกับความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 อย่างไรก็ดีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบลงช่วงกลางสัปดาห์ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในต่างประเทศ ก่อนจะดีดตัวขึ้นอีกครั้งช่วงปลายสัปดาห์ โดยมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังธปท. อนุญาตให้สถาบันการเงินกลับมาจ่ายเงินปันผลได้ภายใต้แนวทางที่ธปท. กำหนด