เพจเฟซบุ๊ก กรมอุตุนิยมวิทยา เผยแผนที่คาดการณ์เส้นทางพายุไต้ฝุ่นหว่ามก๋อ อัพเดตเช้าวันนี้(14 พ.ย.63)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประกาศกรมอุตุฯ ฉบับที่ 8 พายุไต้ฝุ่นหว่ามก๋อ จ่อขึ้นฝั่งเวียดนาม เหนือ-อีสานรับมือฝน
พยากรณ์อากาศวันนี้ เหนือและอีสานอากาศเย็นถึงหนาว ภาคใต้มีฝนต่อเนื่อง
เตือน 4 จังหวัดภาคใต้ เสี่ยงฝนตกหนัก ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก
กรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์เส้นทางเดินพายุไต้ฝุ่น"หว่ามก๋อ" (พายุระดับ 5) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง โดยคาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในวันที่ 15 พ.ย. 63 และจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง
สำหรับไทม์ไลน์เส้นทาง "พายุหว่ามก๋อ" ที่คาดว่าจะกระทบกับไทย มีดังต่อไปนี้
วันที่ 13 พ.ย. 2563 เวลา 16.00 น. พายุโซนร้อนกำลังแรง “หว่ามก๋อ” (พายุระดับ 4)ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็น พายุไต้ฝุ่น (พายุระดับ 5 )แล้ว บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 15.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 113.9 องศาตะวันออก
วันที่ 14 - 15 พ.ย. 2563 พายุเมื่อเคลื่อนเข้าใกล้ฝั่งเวียดนาม จะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วตามลำดับ ส่งผลให้ภาคอีสานตอนบน ด้านตะวันออก บริเวณจังหวัด มุกดาหาร นครพนม สกลนคร บึงกาฬ หนองคาย หนองบัวลำภู และภาคเหนือด้านตะวันออก บริเวณจังหวัด อุตรดิตถ์น่าน เชียงราย มีเมฆเพิ่มขึ้น ฝนเล็กน้อยถึงปานกลางบางพื้นที่กับมีลมแรง
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา"พายุไต้ฝุ่น “หว่ามก๋อ” (พายุระดับ 5)" ฉบับที่ 8 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2563 เวลา 05.00 น.
เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (14 พฤศจิกายน 2563) พายุไต้ฝุ่น “หว่ามก๋อ” (พายุระดับ 5) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง
มีศูนย์กลางอยู่ห่างออกไปทางตะวันออกของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ประมาณ 400 กิโลเมตร หรือที่ละติจูด 15.7 องศาเหนือ ลองจิจูด 111.9 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามประมาณวันที่ 15 พฤศจิกายน 2563 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ ซึ่งจะส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางเกิดขึ้นได้ในช่วงวันที่ 15-16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 ขอให้เกษตรกรบริเวณดังกล่าวเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
ที่มา : กรมอุตุนิยมวิทยา