"หลี่ เค่อเฉียง" ชี้ อาเซียนได้กลายเป็นคู่ค้าอันดับแรกของจีน

13 พ.ย. 2563 | 10:59 น.

ผู้นำจีน "หลี่ เค่อเฉียง" เผย การลงทุนในอาเซียนเพิ่มขึ้นมากกว่า 70% ในช่วง 3 ไตรมาสแรก ยืนยันเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์อย่างไม่หยุดยั้ง

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2563 ในการประชุมผู้นำจีน - อาเซียน (10 + 1) ครั้งที่ 23 ผ่านระบบการประชุมทางไกล ฯพณฯ หลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ได้เข้าร่วมและได้กล่าวถึงความสัมพันธ์จีน - อาเซียนว่าได้พัฒนาอย่างเสถียรภาพ หลังจากฝ่าลมฝนในระยะเวลา 30 ปี  เมื่อต้องเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 อย่างกะทันหัน  โดยจีนและอาเซียนได้เสริมสร้างความร่วมมือและแบ่งปันประสบการณ์ในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยจัดตั้ง "ช่องทางพิเศษ" และ "ช่องทางสีเขียว"เป็นรายแรก

 

ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจและการค้าทรุดโทรม และการไปมาหาสู่ระหว่างประชาชนได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง  อย่างไรก็ดีในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ การค้าจีน - อาเซียนกลับเติบโตขึ้นอย่างสวนกระแส และ การลงทุนของจีนในอาเซียนเพิ่มขึ้นมากกว่า 70% เมื่อเทียบกับเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และอาเซียนได้กลายเป็นคู่ค้าอันดับแรกของจีน 

"หลี่ เค่อเฉียง" ชี้ อาเซียนได้กลายเป็นคู่ค้าอันดับแรกของจีน

นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ชี้ให้เห็นว่าเหตุผลที่ความร่วมมือจีน – อาเซียนสามารถพัฒนาได้อย่างไม่หยุดยั้ง และได้แสดงบทบาทสำคัญต่อสันติภาพ เสถียรภาพ การพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคนี้  แยกออกจากความพยายามร่วมกันของเราทั้งสองฝ่ายไม่ได้
 

-ยึดมั่นในมิตรภาพที่ดีต่อเพื่อนบ้านและเดินบนเส้นทางแห่งการพัฒนาที่มีความสามัคคีเป็นอันหนึ่งเดียวกัน ไม่ว่าจะเผชิญกับวิกฤตการณ์ทางการเงิน 2 ครั้ง ภัยธรรมชาติครั้งใหญ่เช่นโรคซาร์สและสึนามิ หรือผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิด-19ในปีนี้ เราสามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันและเอาชนะความยากลำบากร่วมกันได้

 

-ยึดมั่นในความร่วมมือที่เอื้อประโยชน์แก่กันและเดินบนเส้นทางแห่งการพัฒนาร่วมกัน ความร่วมมือจีน – อาเซียนเป็นความร่วมมือที่เอื้อประโยชน์ร่วมกัน เปิดกว้างและครอบคลุม เราถือการพัฒนาของอีกฝ่ายหนึ่งเป็นโอกาสสำคัญ ประสานแผนพัฒนา เสริมสร้างการเชื่อมโยงกัน และสนับสนุนพหุภาคีและการค้าเสรี ซึ่งไม่เพียงแต่บรรลุการพัฒนาของตนเองเท่านั้น แต่ยังผลักดันให้เกิดการพัฒนาที่มั่นคงของเศรษฐกิจระดับภูมิภาคและระดับโลกด้วย

 

-ยึดมั่นในการเจรจาและปรึกษาหารือกัน และเดินบนเส้นทางแห่งการพัฒนาอย่างสันติ สันติภาพและเสถียรภาพเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการพัฒนาและความมั่งคั่ง เราเห็นพ้องต้องกันว่าจะเคารพซึ่งกันและกัน แสวงหาจุดร่วมและสงวนจุดต่าง และแก้ไขความคิดที่แตกต่างและข้อพิพาทผ่านการปรึกษาหารือที่เป็นมิตร เราจึงได้สร้างสภาพแวดล้อมของภูมิภาคที่สงบสุขและมั่นคง
 

นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง กล่าวเพิ่มเติมว่า ทะเลจีนใต้เป็นบ้านร่วมกันของประเทศในภูมิภาค สถานการณ์ปัจจุบันในทะเลจีนใต้มีเสถียรภาพโดยทั่วไป จีนและประเทศในอาเซียนมุ่งมั่นที่จะดำเนินการโดยคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม ยืนยันที่จะกระชับความร่วมมือ จัดการความแตกต่างอย่างแข็งขัน ปฏิบัติตาม "ปฏิญญาว่าด้วยแนวปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้ " (DOC) อย่างเต็มที่และมีประสิทธิผล และดำเนินการเจรจา "ประมวลการปฏิบัติในทะเลจีนใต้"(COC) อย่างต่อเนื่อง ในฐานะ "ปฏิญญา" เวอร์ชันอัปเกรด "ประมวลการปฏิบัติ" จะมีเนื้อหาที่มีสาระมากขึ้น มีประสิทธิผลมากขึ้น และสามารถดำเนินการง่ายขึ้น เพื่อให้การรับประกันที่มั่นคงต่อสันติภาพและเสถียรภาพในทะเลจีนใต้ 


จีนเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเอาชนะผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19 นำความคิดใหม่ๆให้กับการเร่งปรึกษาหารือโดยวิธีที่ยืดหยุ่นและปฏิบัติได้จริง เพื่อเป็นการแสดงให้ประชาคมโลกเห็นว่าเรามีภูมิปัญญา มีความสามารถในการจัดการควบคุมสถานการณ์และรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในทะเลจีนใต้  เมื่อสถานการณ์โควิดดีขึ้น จีนยินดีที่จะพิจารณาจัดการปรึกษาหารือแบบหน้าต่อหน้าในประเทศจีนโดยเร็วที่สุด เพื่อผลักดันการพิจารณา "ประมวลการปฏิบัติ" วาระที่สอง