กระทรวงสรารณสุขของสิงคโปร์ ประกาศว่าสิงคโปร์จะเพิ่มจำนวนผู้เดินทางขาเข้าที่ต้องรับการตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แบบปฏิกิริยาลูกโซ่พอลิเมอเรส (PCR) ภายใน 72 ชั่วโมง ก่อนออกเดินทางมายังสิคโปร์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย. เป็นต้นไป
กระทรวง ฯ ระบุว่าผู้เดินทางขาเข้าทุกคนที่ไม่ใช่พลเมืองหรือผู้อาศัยถาวรในสิงคโปร์ ยกเว้นผู้ที่มาจากประเทศและภูมิภาคที่มีความเสี่ยงต่ำ จะต้องเข้ารับการตรวจโรคโควิด-19 ก่อนออกเดินทางจากประเทศต้นทาง ทั้งยังต้องปฏิบัติตามระเบียบการกักกันตัวในที่พักอาศัย (SHN) ทันทีที่เดินทางถึงสิงคโปร์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า วัตถุประสงค์ในการออกมาตรการใหม่ของกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ก็เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยที่มาจากประเทศและภูมิภาคที่มีความเสี่ยงสูง โดยก่อนหน้านี้สิงคโปร์กำหนดให้ผู้เดินทางขาเข้าแสดงผลตรวจโรคโควิด-19 ที่เป็นลบ เพื่อเดินทางเข้าหรือเปลี่ยนเครื่องบินในสิงคโปร์ ส่วนประเทศและภูมิภาคที่มีความเสี่ยงต่ำหมายถึงมีอุบัติการณ์ของโรคโควิด-19 ลดลง รวมถึงอยู่ภายใต้มาตรการตรวจจับและป้องกันการแพร่ระบาดในชุมชนอันครอบคลุม
ปัจจุบันผู้เดินทางจากบรูไน นิวซีแลนด์ เวียดนาม ออสเตรเสีย และจีนแผ่นดินใหญ่ จำเป็นต้องตรวจโรคโควิด-19 ทันทีที่เดินทางถึงสิงคโปร์แทนการกักกันตัวในที่พักอาศัย
ขณะผู้เดินทางจากมาเลเซีย (ไม่รวมซาบาห์) เขตบริหารพิเศษมาเก๊าและเกาะไต้หวันของจีน จำเป็นต้องกักกันตัวในที่พักอาศัยเป็นเวลา 7 วัน ก่อนเข้ารับการตรวจโรคโควิด-19 เช่นเดียวกับผู้เดินทางจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกงของจีนที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ความร่วมมือทวิภาคีระเบียงท่องเที่ยวทางอากาศ (Air Travel Bubble) ระหว่างฮ่องกง-สิงคโปร์
นอกจากนั้นกระทรวงฯ ยังประกาศว่าบริษัทหรือบุคคลใดๆ ที่ต้องการตรวจโรคโควิด-19 สามารถขอรับการตรวจได้จากผู้ให้บริการที่ได้รับอนุมัติ ซึ่งรวมถึงบุคคลที่ต้องการตรวจโรคก่อนออกเดินทาง โดยบุคคลที่เข้ารับการตรวจโรคแล้วจะไม่จำเป็นต้องขออนุมัติจกกระทรวงๆ ก่อนออกเดินทางนอกประเทศอีกต่อไป เริ่มตั้งแต่ 23.59 น. ของวันที่ 30 พ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น