"บุช" โชว์สปิริต ร่วมยินดี "ไบเดน" ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

09 พ.ย. 2563 | 04:21 น.

"จอร์จ ดับเบิลยู บุช" อดีตปธน. สหรัฐจากพรรครีพับลิกัน แสดงสปิริตร่วมแสดงความยินดีกับชัยชนะของนายโจ ไบเดน ซึ่งเป็นว่าที่ปธน.คนใหม่จากพรรคเดโมแครต ย้ำความปรองดอง มีเอกภาพ เป็นสิ่งสำคัญที่ประเทศชาติต้องการในขณะนี้

 

นายจอร์จ ดับเบิลยู บุช อดีตประธานาธิบดีสหรัฐสังกัดพรรครีพับลิกัน (ดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2544- 2552) ได้กล่าว แสดงความยินดี กับ นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46 และ นางคามาลา แฮร์ริส ว่าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐ พร้อมกับเรียกร้องให้ชาวอเมริกันมีความเป็นน้ำหนึ่งในเดียวกันในการสนับสนุนนายไบเดนและนางแฮร์ริส

นายจอร์จ ดับเบิลยู บุช อดีประธานาธิบดีสหรัฐ สังกัดพรรครีพับลิกัน

"แม้เราจะมีมุมมองด้านการเมืองที่แตกต่างกัน แต่ผมรู้ว่า โจ ไบเดน เป็นคนดี และขณะนี้เขาได้รับโอกาสให้เข้ามาบริหารประเทศ และจะหลอมรวมประเทศของเราให้เป็นหนึ่งเดียวกัน" นายบุชกล่าวในแถลงการณ์

 

ทั้งนี้ แม้นายบุชทราบว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังใช้สิทธิเรียกร้องให้มีการนับคะแนนใหม่และยื่นฟ้องร้องทางกฎหมายเนื่องจากเชื่อว่ามีการโกงคะแนนเลือกตั้ง แต่นายบุชกล่าวว่า "เมื่อดูจากหลักการแล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้มีความยุติธรรม มีความชอบธรรม และผลก็ออกมาชัดเจน"

 

นายบุช หรือ “บุชคนลูก” (เนื่องจากบิดาของเขาคือ นายจอร์จ บุช เป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 41 ดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2532-2536) ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐด้วยคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral Vote) ที่สูงกว่าคู่แข่งอย่างนายอัล กอร์ ในศึกเลือกตั้งปี 2543 ทำให้เขาได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 43 และหลังจากครบวาระการดำรงตำแหน่งแล้ว นายบุชมักจะหลีกเลี่ยงการแสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะเกี่ยวกับการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งรวมถึงการหาเสียงเลือกตั้งในปี 2563

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

ทั้งนี้ นอกจากนายจอร์จ ดับเบิลยู บุช แล้ว ยังมีอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอีกหลายรายที่ร่วมส่งข้อความแสดงความยินดีแก่นายโจ ไบเดน วานนี้ (8 พ.ย.) หนึ่งในนั้นคือ นายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 44 ซึ่งดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2551-2559 และในสมัยของเขา นายโจ ไบเดน ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี

บารัก โอบามา และโจ ไบเดน ช่วงที่ฝ่ายแรกยังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และไบเดนเป็นรองปธน.

"บุช" โชว์สปิริต ร่วมยินดี "ไบเดน" ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

“ผมภาคภูมิใจอย่างที่สุดที่จะแสดงความยินดีต่อโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของพวกเรา และจิลล์ ไบเดน ว่าที่สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง”  โอบามายังแสดงความยินดีต่อนางคามาลา แฮร์ริส และสามีของเธอ คือนายดัก เอ็มโฮฟ ซึ่งเป็นนักกฎหมาย เขาตั้งข้อสังเกตว่า ท่ามกลางสถานการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นอย่างไม่เคยประสบมาก่อนในสหรัฐอเมริกา (ซึ่งหมายถึงการแพร่ระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนา “โควิด-19”) แต่ผู้คนก็ยังคงออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งอย่างล้นหลามชนิดที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนเช่นกัน และเมื่อทุกคะแนนถูกนับ ผลก็ชี้ว่า โจ ไบเดน คือผู้ชนะ เขาคือผู้ที่ประชาชนตัดสินใจเลือกแล้วและจะสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับสหรัฐอเมริกา แต่โอบามาก็เชื่อว่า โจ ไบเดนนั้นมีคุณสมบัติครบถ้วนและพร้อมแล้วที่จะเผชิญกับทุก ๆความท้าทายที่รออยู่เบื้องหน้าทันทีที่เขาสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคมปีหน้า

 

ปธน.โอบามา ยังฝากให้ชาวอเมริกันทุกคนให้โอกาสแก่นายไบเดนและสนับสนุนการทำงานของเขาในอนาคต

 

ด้านนายบิล คลินตัน อดีตปธน.สหรัฐจากพรรคเดโมแครต ซึ่งดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2536-2544 (เป็นปธน.สหรัฐคนที่ 42) กล่าวว่า เขาขอแสดงความยินดีต่อชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของนายโจ ไบเดน และคามาลา แฮร์ริส “อเมริกาได้ออกเสียงแล้ว และนี่คือชัยชนะของประชาธิปไตย” 

"บุช" โชว์สปิริต ร่วมยินดี "ไบเดน" ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

ขณะที่นางฮิลลารี คลินตัน อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งและอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ซึ่งพ่ายแพ้ให้กับทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2559 กล่าวว่า ชัยชนะครั้งนี้คือตั๋วสู่การเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ นี่คือการปฏิเสธว่าอเมริกาไม่เอาทรัมป์แล้ว จึงเป็นการพลิกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของสหรัฐอเมริกา “ขอบคุณทุก ๆ คนที่ช่วยกันทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้น เราจะก้าวต่อไปข้างหน้าด้วยกัน”

ข้อความแสดงความยินดีบนทวิตเตอร์ของนางฮิลลารี คลินตัน

 

ส่วนนายจิมมี คาร์เตอร์ อดีตปธน. สหรัฐคนที่ 39 จากพรรคเดโมแครตที่ดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2520-2524 และเป็นอดีตปธน.ที่มีอายุมากที่สุดคือ 96 ปี เขียนข้อความระบุว่า เขาและนางโรซาลิน ภริยา มีความภาคภูมิใจในตัวนายโจ ไบเดน และนางคามาลา แฮร์ริส ที่กำลังจะเป็นประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ ขอรอคอยที่จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกที่บุคคลทั้งสองจะนำมาสู่ประเทศสหรัฐอเมริกา   

นายจิมมี คาร์เตอร์ (อดีตปธน. สหรัฐคนที่ 39 )ในวัย 96 ปีร่วมแสดงความยินดี